เมื่อพูดถึงวิธีรักษาฝ้าที่ได้หลายคนเลือกใช้ แน่นอนว่าคำตอบของใครหลายคนคงหนีไม่พ้นการเลือกใช้ครีมทาฝ้า เพราะด้วยข้อที่ดีที่เราสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไป รวมไปถึงขั้นตอนการใช้งานที่ไม่ยุ่งยากเหมือนกับวิธีอื่น แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน การรักษาฝ้าด้วยเครื่องมือทางการแพทย์นั้นก็เป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ในเมื่อมีตัวเลือกมากมายเช่นนี้ เราเชื่อว่าคงมีควรไม่น้อยที่อาจจะรู้สึกสับสนว่าแล้วเราควรเลือกใช้วิธีไหนกันแน่นอนระหว่าง “ครีมทาฝ้า” และ “เครื่องมือทางการแพทย์”

และเพื่อเป็นการตอบคำถามที่ใครหลายคนอยากรู้ วันนี้เราจึงได้รวบรวมและเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียระหว่างสองวิธีที่ได้พูดถึงไปมาให้ทุกคนได้ลองไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกัน ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะมีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว อย่ามัวรอช้า รีบตามไปดูกันเลย

เครื่องมือทางการแพทย์

ในปัจจุบันเราสามารถแบ่งวิธีรักษาฝ้าด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ออกได้เป็นทั้งหมด 3 แนวทางด้วยกัน ประกอบไปด้วย การกรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี, การใช้เลเซอร์ และการทำเมโสหน้าใส ซึ่งวิธีทั้งหมดต่างก็มีข้อดีและข้อเสียตามรายละเอียดด้านล่างนี้

ข้อดี: เห็นผลไว
เมื่อลองเปรียบเทียบกับครีมทาฝ้า การใช้เครื่องมือทางการแพทย์นับว่าเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ไว เพราะด้วยขั้นตอนส่วนใหญ่ของแนวทางดังกล่าวที่มักนำเครื่องมือต่างๆ มาใช้เพื่อลดรอยฝ้าบนผิวหน้าโดยตรง เช่น การใช้เลเซอร์เพื่อให้เม็ดสีแตกออกจากกัน และการกรอผิวเพื่อผลัดเซลล์ผิวใหม่

ข้อเสีย: มีผลข้างเคียงที่ควรระวัง
ถึงแม้การใช้เครื่องมือการแพทย์เพื่อรักษาฝ้าจะมีข้อดีช่วยให้รอยดำหรือรอยคล้ำจากฝ้าสามารถจางลงไปได้ในภายในเวลาไม่นาน แต่อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยวิธีดังกล่าวนั้นกลับมีผลข้างเคียงหลายประการที่เราควรระวังไม่ว่าจะเป็น อาการอักเสบที่อาจจะลุกลามจนถึงขั้นทำให้ผิวหน้ามีรอยดำคล้ำมากขึ้นกว่าเดิมจากการใช้เลเซอร์ นอกจากนี้ ผู้เข้ารับการรักษายังจะต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น ห้ามแคะหรือเกาบริเวณใบหน้า และห้ามโดนแสงแดดอย่างจัง เป็นต้น

ครีมทาฝ้า

ข้อดี: มีหลายตัวเลือกให้เราได้ลองใช้งาน
ในปัจจุบันต้องบอกก่อนว่า ผู้บริโภคอย่างเรามีครีมทาฝ้าให้เลือกสรรมากมายหลายสูตรหลายราคา ซึ่งปัจจัยดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องดี เนื่องจากปกติแล้วผิวหน้าของแต่ละคนมักมีความแตกต่างกัน บางคนอาจจะเกิดอาการแพ้เมื่อใช้สูตรของยี่ห้อ A แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะมองหาทางเลือกที่ใช่จากตัวเลือกอื่นๆ จากยี่ห้อ B, C หรือ D เป็นต้น นอกจากจะมีความหลากหลายแล้ว ในช่วงไม่กี่ปีให้หลัง ผู้ผลิตครีมทาฝ้าหลายแห่งยังได้มีการอัปเกรดคุณภาพของตัวสินค้าหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคิดค้นสูตรที่ใช้แล้วสามารถรอยฝ้าฝังรากลึกนาน 10 ปีได้ในเวลา 4 สัปดาห์โดยไม่เกิดผลข้างเคียง หรือการนำสารสกัดจากธรรมชาตมาใช้ เป็นต้น

ข้อเสีย: ควรเข้าใจขั้นตอนการเลือกซื้อให้ดี
ในขณะเดียวกันกับที่เรามีครีมทาฝ้าให้เลือกใช้กันอย่างมากมาย แต่ในบรรดาครีมเหล่านั้น กลับมีสิ่งสำคัญที่เราควรระวังในการเลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงครีมที่ส่วนผสมของสารอันตราย อย่าง สเตียรอยด์ และไฮโดรควิโนน และการเลือกซื้อครีมทาฝ้าที่ได้รับตราจากอย. เท่านั้น

Photos and Web Content by Primal Co., Ltd.

เมื่อพูดถึงวิธีลบรอยฝ้าที่ได้รับความนิยม การเลือกใช้ครีมกำจัดฝ้านับว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ใครหลายคนต่างเลือกใช้ เพราะด้วยปัจจัยที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไป แถมขั้นตอนการใช้งานก็ยังสะดวกกว่าการเลือกใช้วิธีรักษาประเภทอื่นๆ จึงทำให้วิธีดังกล่าวตอบโจทย์ชาวเมืองที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองมากนัก

ถึงแม้ว่าการเลือกใช้ครีมกำจัดฝ้าจะมีข้อดีหลายประการ แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าหลายคนในที่นี้คงจะเคยเจอกับปัญหาไปถึงร้านขายครีมแล้วแต่ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเลือกใช้ครีมแบบไหนที่ใช้แล้วเห็นผลได้จริง และเพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว วันนี้เราจึงได้คัดเอา 4 ครีมลบฝ้าที่เด่นทั้งในเรื่องคุณภาพและราคามาให้ทุกคนได้ลองไปตามลายแทงกัน

Nivea luminous 630
ถือว่าเป็นครีมกำจัดฝ้าที่สร้างความฮือฮาได้อย่างมากหลังเปิดตัวออกมาเมื่อปีที่แล้ว เพราะด้วยคุณสมบัติที่ทางผู้ผลิตเคลมมาว่าสามารถลบเลือนฝ้าที่ฝังรากลึกยาวนานกว่า 10 ปีได้ภายในเวลาเพียง 4 สัปดาห์ นอกจากนี้ภายในเนื้อครีมยังมีการผสมสาร Luminuos 630 ที่จะช่วยฟื้นฟูผิวหน้าของเราให้แลกลับมาดูกระจ่างใสได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองตามมา ส่วนอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจไม่แพ้กันได้แก่ตัวเนื้อครีมที่มีความบางเบา จึงทำให้สามารถซึมซับเข้าผิวหนังชั้นในได้รวดเร็ว ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ทาเสร็จแล้วลงเครื่องสำอางต่อได้ทันที ซึ่งทั้งหมดนี้มาในราคาเพียง 950 บาทเท่านั้น

Vichy ideal white
แบรนด์จากฝรั่งเศสอย่าง Vichy นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งเจ้าใหญ่ในวงการครีมกำจัดฝ้า โดยครีมที่เราหยิบมาแนะนำกันนี้ต้องบอกก่อนว่าเกิดจากการผสมสารตัวเทพต่างๆ ที่จะช่วยลบเลือนรอยฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพไปพร้อมๆ กับความชุ่มชื้นให้ใบหน้าของเราไว้ในหลอดเดียว เช่น Adenosine, Ellagic acid และ LHA โดยปราศจากการใช้สารที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนัง รวมไปถึงผลข้างเคียงอื่นๆ ที่เป็นบ่อเหตุของการระคายเคืองและอาการรูขุมขนอุดตัน

Oriental princess lumino perfect white
เนื่องจากฝ้าเป็นปัญหาผิวหนังที่เกิดจากเซลล์เม็ดสีหรือเมลานินทำงานผิดปกติ ดังนั้นวิธีรักษาให้ได้ผลที่สุดคือการมองหาครีมกำจัดฝ้าที่จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเซลล์ดังกล่าว ซึ่งคุณสมบัติที่เราได้พูดถึงไปนี้สามารถหาได้ใน oriental princess lumino perfecting white นอกจากจะช่วยให้รอยดำต่างๆ จางลงไปได้อย่างเห็นผลแล้ว ตัวเนื้อครีมยังมีคุณสมบัติช่วยปรับผิวหน้าของเราให้กลับมาดูขาวกระจ่างใสได้อีกด้วย ครบครันแบบนี้ บอกเลยหลอดเดียวเอาอยู่

Provamed antimelasma spot corrector
ด้วยส่วนผสมของสารไฮยาลูรอนและอัลฟ่าอาร์บูตินที่มีอยู่ในเนื้อครีมจึงช่วยให้ผิวหน้าของผู้ใช้แลดูเต่งตึง รอยดำหรือรอยคล้ำจากฝ้าจางลงไปได้ในเวลาแต่เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังใช้งานเป็นครั้งแรก ส่วนตัวเนื้อครีมกำจัดฝ้าก็นับว่าทำได้ดีทั้งในเรื่องของกลิ่นที่ไม่ฉุนมากนักเหมือนกับยารักษาฝ้า รวมไปความเหนียวเหนอะหนะที่มีน้อย

น่าสนใจกันไม่น้อยเลยใช่ไหมกับครีมกำจัดฝ้าที่เราหยิบมาแนะนำกันในวันนี้ หากใครสนใจตัวไหนทางที่ดี เราอยากจะให้ลองหา tester หรือ ขวดเล็กมาใช้งานก่อนเพื่อดูว่าหลังทาไปแล้วร่างกายเราเกิดอาการแพ้หรือไม่

Photos and Web Content by Primal Co., Ltd.