กรุงเทพฯ 27 สิงหาคม 2561 – สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึง ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการนั่งพักผ่อนชมฟ้าสวยทะเลใส การออกสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม หรือการเดินเที่ยวในเมืองใหญ่ ออนิกซ์ ฯ พร้อมเติมความสุขในการพักผ่อนครั้งนี้ให้พิเศษยิ่งขึ้น ด้วยโปรโมชั่นห้องพักราคาพิเศษที่โรงแรมและรีสอร์ทภายใต้แบรนด์อมารี โอโซ่ และชามากว่า 30 แห่ง พิเศษเฉพาะที่งาน ไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 48 ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 2 กันยายน 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ดื่มด่ำบรรยากาศที่แสนงดงามของท้องฟ้าและท้องทะเลสีฟ้าใส ณ แหล่งท่องเที่ยวริมทะเลยอดนิยมในประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาพักผ่อนริมชายฝั่งทะเลตะวันออกในห้องพักแบบสวีทหนึ่งห้องนอนที่อมารี เรสซิเดนซ์ พัทยา ในราคาเริ่มต้นเพียงคืนละ 2,500 บาท* หรือร่วมสัมผัสเสน่ห์ของหัวหินในอดีตที่อมารี หัวหินในราคาเริ่มต้นเพียงคืนละ 2,800 บาท* สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนอันเงียบสงบกับคนรัก อมารี ภูเก็ตพร้อมต้อนรับแขกผู้เข้าพักให้มาร่วมฉลองช่วงเวลาแสนพิเศษร่วมกันในราคาพิเศษเริ่มต้นคืนละ 3,900 บาท*

หากรู้สึกเบื่อกับชีวิตการทำงานท่ามกลางตึกสูงระฟ้า เชิญมาเอนกายพักผ่อนชมวิวที่แสนงดงามของภูเขาและแม่น้ำที่เงียบสงบที่อมารี วังเวียง ราคาเริ่มต้นคืนละ 3,200 บาท* และอมารี หยางซั่ว กุ้ยหลิน ราคาพิเศษเพียงคืนละ 3,995 บาท* สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการปีนเขาที่ต้องการชื่นชมแสงอาทิตย์ยามเช้า โอโซ่ แคนดี้ ศรีลังกา ต้อนรับนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมไร่ชาพร้อมสัมผัสธรรมชาติอันเขียวขจีด้วยราคาเริ่มต้นคืนละ 3,315 บาท* ส่วนผู้ที่ชื่นชอบการออกสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ออนิกซ์ฯ ขอนำเสนอที่พักไม่ไกลจากอุทยานประวัติศาสตร์ อย่างสุโขทัย เฮอริเทจ รีสอร์ท เริ่มต้นที่คืนละ 1,500 บาท และอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในราคาสบายกระเป๋า เริ่มต้นเพียงคืนละ 1,800 บาท*

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการสัมผัสสีสันการท่องเที่ยวในเมืองใหญ่ สามารถเข้าพักที่โรงแรมหลายแห่งในเครือออนิกซ์ฯ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่ อาทิ อมารี ยะโฮร์ บาห์รู ชามา สุขุมวิท กรุงเทพฯ และ โอโซ่ เวสลีย์ ฮ่องกง นอกจากผู้เข้าพักจะได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มแล้ว ยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า แหล่งบันเทิง อาคารสำนักงาน และระบบขนส่งสาธารณะต่าง ๆ อมารี ยะโฮร์ บาห์รูพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียงคืนละ 2,000 บาท* ชามา สุขุมวิท กรุงเทพฯ มอบข้อเสนอห้องพักใจกลางกรุงเทพฯ ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ราคาเริ่มต้นคืนละ 3,200 บาท* และโอโซ่ เวสลีย์ ฮ่องกง มอบความสะดวกสบายตามแบบฉบับโอโซ่ในราคาพิเศษเพียงคืนละ 4,250 บาท*

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่พนักงานของเรา ณ บูธออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป หมายเลขP150–P153 โซนเพลนารี ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

*ราคาที่ระบุข้างต้นนี้สงวนสิทธิ์สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น โดยสามารถเข้าพักระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 31 ตุลาคม 2561 ราคาดังกล่าวเป็นราคาสุทธิ ต่อห้อง ต่อคืน รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน ซึ่งจะเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของแต่ละโรงแรม รีสอร์ท และเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ ห้องพักมีจำนวนจำกัด สำหรับการเข้าพักในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดยาวต่อเนื่อง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

จากภาพ (ซ้ายไปขวา) :
1. นายปิแอร์ อังเดร เพเลเทียร์ รองประธานกรรมการภูมิภาคฝ่ายปฏิบัติการ – ภาคใต้ ประเทศไทย เวียดนาม และมัลดีฟส์ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป
2. นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อิตัลไทย
3. นายดักลาส มาร์เทล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป

ภูเก็ต 14 สิงหาคม 2561 – คณะผู้บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป นำโดย นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อิตัลไทย (กลาง) เข้าร่วมพิธีเทคอนกรีตปิดงานโครงการโอโซ่ ภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากหาดกะตะ ทางชายฝั่งตะวันตกของจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 255 ห้องและสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์โอโซ่
ที่ตอบโจทย์ตลาดระดับราคาปานกลาง (มิดสเกล) ทั้งการนอนพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม การเชื่อมต่ออินเตอร์เนตที่ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการออกสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเชิงลึก

โอโซ่ ภูเก็ต มีเป้าหมายจะเปิดให้บริการในปีพ.ศ. 2562 ให้บริการห้องพักที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้แขกผู้เข้าพักสัมผัสประสบการณ์
การพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม มีการเชื่อมต่อด้วยระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยภายในห้องพักและพื้นที่ส่วนรวม และได้รับเคล็ดลับการท่องเที่ยวโดยพนักงานที่รู้จักและคุ้นเคยกับพื้นที่ชุมชนแห่งนี้เป็นอย่างดี นอกจากนี้โรงแรมยังให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ตามมาตรฐานโอโซ่
อาทิ อีท (EAT) ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักของโอโซ่ที่เปิดให้บริการตลอดวัน พร้อมบริการอาหารเช้าที่มีคุณภาพ อีททูโก (EAT2Go) มุมอาหารว่างซึ่งแขกที่เข้าพักสามารถซื้อและนำออกไปทานนอกสถานที่ได้ โทน ฟิตเนส เซ็นเตอร์ (TONE) และ ทอล์ค (TALK) ห้องประชุมอเนกประสงค์ โดยโรงแรมแห่งนี้มีจุดเด่นตรงที่มีสระว่ายน้ำแยกออกจากกันสองสระ ได้แก่ สระสำหรับเด็กและสระว่ายน้ำแบบฟรีฟอร์มที่ตั้งอยู่ติดกัน

ปัจจุบันออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เปิดให้บริการโรงแรมภายใต้แบรนด์โอโซ่แล้วทั้งหมดสี่แห่งในฮ่องกง เกาะสมุย โคลัมโบและแคนดี้
(ประเทศศรีลังกา) นอกจากนี้ยังมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาภายใต้แบรนด์โอโซ่ ณ เมืองฮอยอัน (ประเทศเวียดนาม) พัทยา ยะโฮร์ บาห์รููและปีนัง (ประเทศมาเลเซีย)

กรุงเทพฯ 31 กรกฎาคม 2561 – ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านการบริหารจัดการโรงแรมในภูมิภาคเอเชีย ลงนามในสัญญาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับบริษัท เอสพี เซเทีย จำกัด (SP Setia Berhad) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศมาเลเซีย รับบริหารจัดการสองโรงแรมใหม่ภายใต้แบรนด์อมารีที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ และเมืองปีนัง

อมารี กัวลาลัมเปอร์ จะได้รับการพัฒนาให้เป็นส่วนหนึ่งของเคแอล อีโค ซิตี้ (KL Eco City) ในย่านมิดวัลเลย์ (Mid Valley district) ส่วนอมารี ปีนัง มีทำเลที่ตั้งติดกับศูนย์การประชุมเซเทีย สไปซ์ (Setia SPICE Convention Centre) โดยมีกำหนดเปิดให้บริการช่วงปลายปีพ.ศ. 2563 และอมารี กัวลาลัมเปอร์ จะเปิดให้บริการในช่วงต้นปี พ.ศ. 2564

อมารี กัวลาลัมเปอร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการพัฒนาพาณิชย์เชิงบูรณาการ (Mix-used) เคแอล อีโค่ ซิตี้ ประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 252 ห้อง จากโรงแรม ผู้เข้าพักสามารถเดินทางไปยังอาคารสำนักงาน อาคารที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า และสถานีรถไฟที่เชื่อมระหว่างเมืองและระหว่างรัฐได้อย่างสะดวกสบาย เคแอล อีโค่ ซิตี้ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 25 เอเคอร์ ได้รับการออกแบบโดยเดอะ เจอร์ด พาร์ทเนอร์ชิพ (The Jerde Partnership) ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษ ที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมในเมือง เมื่อโครงการได้รับการพัฒนาเสร็จสมบูรณ์แล้ว เคแอล อีโค่ ซิตี้จะเป็นโครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในรูปแบบพาณิชย์เชิงบูรณาการแห่งแรกในประเทศมาเลเซีย
ส่วนอมารี ปีนัง ประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 453 ห้อง มีทำเลที่ตั้งติดกับศูนย์การประชุมเซเทีย สไปซ์ ซึ่งเป็นศูนย์การประชุมแห่งแรกของโลก
ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ประกอบด้วยห้องจัดแสดงที่รองรับแขกที่เข้างานได้สูงสุดถึง 10,000 คน ศูนย์กีฬาและกิจกรรมทางน้ำ และแหล่งช้อปปิ้งและห้างสรรพสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตบายัน เลปาส (Bayan Lepas) ที่เมืองปีนัง อยู่ใกล้กับอาคารสำนักงานบริษัทต่างชาติต่าง ๆ ปีนังกอล์ฟคลับ (Penang Golf Club) ห้างสรรพสินค้าและแหล่งบันเทิง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย เหมาะสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเพื่อเจรจาทางธุรกิจและพักผ่อนหย่อนใจ

โรงแรมทั้งสองแห่งประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อมารี ได้แก่ บริการคำแนะนำจากอมารีโฮสต์ (Amari Host) อมาญา ฟู้ด แกลเลอรี่ (Amaya Food Gallery) ห้องอาหารสไตล์สตรีทฟู้ด คาสเคด เลานจ์ (Cascade lounge) ห้องประชุม และมีพื้นที่ส่วนกลางทั้งภายในและนอกอาคารที่กว้างขวาง โดยได้ออกแบบอย่างพิถีพิถันให้เหมาะสำหรับใช้เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์อย่าง ไม่เป็นทางการกับเพื่อนฝูง นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกาย

นายดักลาส มาร์เทล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือทางธุรกิจ กับบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่างเอสพี เซเทีย ที่จะนำอมารี แบรนด์หลักในเครือออนิกซ์ ฯ เปิดให้บริการ ณ สองเมืองหลักอย่างกัวลาลัมเปอร์และปีนัง ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศมาเลเซีย

นายดักลาส กล่าวเสริมว่า ตั้งแต่อมารี ยะโฮร์ บาห์รู โรงแรมในเครือออนิกซ์ฯ แห่งแรกในประเทศมาเลเซีย เปิดให้บริการ เรารุกเดินหน้าขยายเครือข่ายในตลาดแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง และมีแผนจะเปิดให้บริการโรงแรมภายใต้แบรนด์โอโซ่และชามาในเมืองอิสกันดาร์ ยะโฮร์ และ โอโซ่ ในเขตจอร์จทาวน์ เมืองปีนังเร็ว ๆ นี้ เรามุ่งหวังให้การร่วมมือทางธุรกิจกับเอสพี เซเทียในการบริหารจัดการอมารี กัวลาลัมเปอร์และอมารี ปีนัง ประสบความสำเร็จ และในระยะยาวมีแผนขยายเครือข่ายทั้งสามแบรนด์หลักไปยังเมืองต่าง ๆ ที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมด้านธุรกิจและการท่องเที่ยวของประเทศมาเลเซีย

ดาโต๊ะ คอร์ แช็พ เจน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสพี เซเทีย จำกัด กล่าวว่า เอสพี เซเทีย เติบโตในธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบก้าวกระโดด โดยเริ่มจากพัฒนาชุมชนเมืองและขยายโครงการไปสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงบูรณาการ และการพัฒนาด้านธุรกิจการบริการและการโรงแรมจึงนับเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของบริษัท ฯ อมารี กัวลาลัมเปอร์ จะได้รับการพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของเคแอล อีโค่ ซิตี้ ในย่านมิดวัลเลย์ ส่วนอมารี ปีนัง มีทำเลที่ตั้งอยู่ติดกับศูนย์การประชุมเซเทีย สไปซ์

ดาโต๊ะ คอร์ เสริมว่า ในขั้นตอนการมองหาบริษัทบริหารจัดการโรงแรม เราต้องการแบรนด์โรงแรมที่ไม่เพียงแต่มีชื่อเสียงที่ดี แต่ต้องสะท้อน ให้เห็นถึงความมีระดับและคุณภาพในการบริการ อมารี เป็นแบรนด์โรงแรมสัญชาติไทยที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย บริหารจัดการโดยออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ที่สร้างชื่อเสียงมายาวนานกว่า 52 ปี เราจึงมั่นใจว่าแบรนด์อมารี จะช่วยยกระดับโครงการของเราได้เป็นอย่างดี

แบรนด์อมารีที่บริหารจัดการโดย ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป สะท้อนให้เห็นถึงสีสันและจังหวะของความเป็นเอเชียสมัยใหม่ ที่สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้แก่ผู้เข้าพักด้วยการผสมผสานเอกลักษณ์ความเป็นไทยในด้านสถาปัตยกรรม การออกแบบตกแต่ง เมนูอาหาร รวมถึงการบริการ

ปีพ.ศ. 2560 และ ปีพ.ศ. 2561 เป็นปีที่สำคัญของการขยายเครือโรงแรมในแบรนด์อมารีไปสู่จุดหมายปลายทางแห่งใหม่ในหลายประเทศ อาทิ ประเทศศรีลังกา มาเลเซีย จีน และลาว อมารี กัวลาลัมเปอร์และอมารี ปีนัง เป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์อมารีแห่งที่สองและแห่งที่สามในประเทศมาเลเซีย ถัดจากอมารี ยะโฮร์ บาห์รู ที่เปิดให้บริการเมื่อปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน ออนิกซ์ฯ มีโรงแรมในเครือเปิดให้บริการแล้วหนี่งแห่งและมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างอีกห้าแห่งในประเทศมาเลเซีย

ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันบริหารจัดการโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ ทั้งหมดเกือบ 50 แห่งในแปดประเทศ ภายใต้แบรนด์อมารี ชามา และโอโซ่ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกกว่า 30 แห่งในตลาดต่าง ๆ อาทิ ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย โดยมีเป้าหมายจะเปิดให้บริการโรงแรม และเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ในเครือข่ายทั้งหมด 99 แห่งภายในปีพ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการเป็นบริษัทขนาดกลางด้านการบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ท และเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ที่ดีที่สุด
ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก