พบเต่าตนุหนัก 100 กก.เกยตื้นหาดกะรน ภูเก็ตอีก

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 5 ต.ค.52 นายสุรเชษฐ์ พินเอี่ยม และนายวรรักษ์ สิงหะบำรุง เจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัย ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวว่า มีเต่าไม่ทราบชนิดขึ้นมาเกยตื้นบริเวณชายหาดกะรน ตรง ข้ามโรงแรมเมอเวนพิค ฝั่งถนนเลียบชายหาดกะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต จากนั้นจึงได้ประสานไปยังนางสาวพัชราภรณ์ แก้วโม่ง สัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน จ.ภูเก็ต ให้เดินทางมาตรวจสอบ และนำเต่าดังกล่าวไปทำการอนุบาล โดยมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมุงดูท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

นางสาวพัชราภรณ์ กล่าวว่า เต่าที่พบดังกล่าวเป็นเต่าตนุ เพศผู้ อายุประมาณ 50 – 60 ปี มีความยาวลำตัว 95 เซนติเมตร กว้าง 84 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม มีแผลยาวที่บริเวณแขนขวาด้านหน้า มีรอยแผลถลอกที่บริเวณหาง และอยู่ในอาการอ่อนเพลีย นอกจากนี้มีอาการเครียดร่วมด้วย จึงได้ฉีดวิตามินให้ 1 เข็ม และนำกลับไปรักษาและดูอาการต่อที่สถาบันวิจัยฯ พร้อมทั้งนี้จะได้ให้ยาปฏิชีวนะและยาบำรุง โดยจะต้องรอดูอาการอีกระยะหนึ่ง ส่วน สาเหตุที่เต่าขึ้นมาเกยหาด เนื่องจากขณะนี้ฝั่งทะเลอันดามันคลื่นลมในทะเลแรงและสูงมาก จึงถูกพัดเข้ามาเกยฝั่ง ส่วนบาดแผลไม่รุนแรงนัก แต่ต้องเจาะเลือดเพื่อดูอาการว่ามีการติดเชื้อภายในหรือไม่ ซึ่งหากแข็งแรงดีก็จะปล่อยกลับสู่ท้องทะเล

นายสุรเชษฐ์ พินเอี่ยม ผู้ที่เข้าช่วยเหลือเต่าขณะนอนเกยตื้นชายหาด กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งจากแจ้งจากนักท่องเที่ยวซึ่งออกกำลังกายอยู่บริเวณชายหาด ว่าพบเต่าเกยตื้นอยู่บริเวณชายหาด ก็ได้ไปดูและพยายามช่วยกันนำกลับลงไปทะเลหลายครั้ง แต่เนื่องจากเต่าไม่สามารถว่ายน้ำช่วยเหลือตัวเองได้ จึงไม่ยอมว่ายลงทะเล เท่าที่สังเกตพบว่าที่บริเวณขาหน้าด้านขวามีรอยบาดแผลเป็นทางยาว และบริเวณหางมีรอยถลอก จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยฯ ทราบ เพื่อนำเต่าไปรักษาและตรวจดูอาการ อย่างไรก็ตามในช่วงหน้ามรสุมนี้ ชายหาดกะตะ-กะรน ต.กะรน มีเต่าขึ้นมาเกยชายหาดแล้ว 3 ตัว ซึ่งทุกตัวได้รับบาดเจ็บจากเศษอวนติด และเครื่องมือทำประมงทั้งสิ้น