ตำนานพ่อตาศักดิ์สิทธิ์ เเห่งเขาโต๊ะแซะ

Phuketindex.com ขอนำเสนอ “ตำนานพ่อตาโต๊ะเเซะ” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองภูเก็ต ด้วยเรื่องเล่าความเชื่อ และปาฏิหาริย์จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้ชื่อของพ่อตาโต๊ะแซะ ถูกจารึกว่าคือหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนชาวภูเก็ตเคารพสักการะ และเป็นที่พึ่งทางใจเสมอมา

พ่อตาโต๊ะเเซะ มีทั้งหมด 3 องค์ ได้เเก่ พ่อตาโต๊ะแซะขาว พ่อตาโต๊ะแซะดำ พ่อตาโต๊ะแซะแดง เชื่อกันว่าในอดีต เป็นผู้บุกเบิกตั้งชุมชนในภูเก็ต คือ อิสลามสามพี่น้องที่แล่นเรือไม้มาขึ้นบก แล้วแยกย้ายเอาธัญญาหารหาญต่างๆ ไปปลูกขยายพันธุ์อยู่คนละที่และในที่สุดได้กลายเป็น “โต๊ะ” หรือ เจ้าพ่อเจ้าแม่ แบ่งเขตคุ้มครองคนละแดน บนเกาะแห่งนี้ โดยมี  โต๊ะยา ซึ่ง เป็นเจ้าแม่อยู่หาดสุรินทร์ กมลา ทางตะวันตกของเกาะภูเก็ต ส่วนโต๊ะแซะ เป็นเจ้าของที่อยู่ในเขตตลาดของอำเภอเมือง และมีศาลให้คนมากราบไหว้ ขณะที่โต๊ะพระแทว น้องสุดท้องดูแลอำเภอถลาง ก็มีศาลอยู่ที่เขาพระแทว

ชาวภูเก็ตได้เล่าสืบต่อกันมาอีกว่า “นายโต๊ะแซ่” เป็นชาวชวา ผู้บำเพ็ญศีลอย่างเคร่งครัด และเดินทางมาธุดงค์ถึงภูเก็ตเมื่อประมาณ 100 ปีเศษมาแล้ว และเลือกยอดเขาโต๊ะแซะเป็นที่อยู่จำศีลภาวนา  ผู้คนที่ผ่านไปมาเห็นนายโต๊ะแซ่ในระยะห่าง เข้าใจว่าเป็นเทพจึงเล่าต่อกันมา และมีบ่อน้ำบนยอดเขาที่ประชาชนนับถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ จึงนำไปรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ  จนเป็นที่ร่ำลือกันว่า “โต๊ะแซ่” เป็นผู้มีวิเศษ มีวิชาอาคม สามารถช่วยเหลือประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยาก  ต่อมาเขาได้หายสาบสูญไป แต่ชื่อเสียงยังคงอยู่ จนชาวบ้านตั้งชื่อเขาลูกนี้ว่าเขาโต๊ะแซ่ ต่อมาชื่อนี้ได้เพี้ยนเป็น “โต๊ะแซะ” จนถึงทุกวันนี้

เมื่อสิ่งที่เราเคารพบูชานั้นมีความเป็นนามธรรม จึงต้องทำการสร้างความเป็นรูปธรรม ที่มนุษย์สามารถสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัส ทำให้เกิดการสร้าง ศาลเจ้าพ่อโต๊ะแซะ ขึ้นมาด้วยความศรัทธา  ศาลแรก ดั้งเดิมตั้งอยู่บนถนนสุทัศน์ ตรงข้ามกับวัดแขก ภายในศาลประดิษฐานรูปหล่อของโต๊ะแซะ โดยมีพญางูตั้งอยู่เคียงข้าง ศาลดังกล่าว มีขนาดเล็กและผู้คนที่ไปสักการะก็มีไม่มาก เมื่อเทียบกับศาลใหม่บนเชิงเขาโต๊ะแซะ ซึ่งภายในศาลนอกจากจะมีรูปหล่อของโต๊ะแซะขาวแล้ว ยังมีโต๊ะแซะดำ และโต๊ะแซะแดงอีกด้วย

ศาลเจ้าพ่อโต๊ะแซะจะมีงานเซ่นบวงสรวงในเดือน 6 เป็นประจำทุกปี โดยมีการ ประทับทรงและเซ่นไหว้ เครื่องเซ่นของเจ้าพ่อฯ ประกอบด้วยพริกแดง 9 ดอก หมากพลู 9 คำ ยาเส้นใบจาก 3 ห่อ ดอกไม้ 3 กำ พวงมาลัย (ดอกไม้สีเดียว) 3 พวง ผลไม้ ข้าวเหนียวขาว และข้าวเหนียวเหลืองพร้อมไก่ปิ้ง เหล้า ส่วยเนื้อหมูห้ามนำเข้าศาลเด็ดขาด คนในตัวเมืองภูเก็ตบางคนยังคงศรัทธาโต๊ะแซะ ถือเป็นที่พึ่งสุดท้าย หากมีเรื่องทุกข์ร้อน และบนบานสำเร็จลุล่วงไปได้ ก็จะถวายพริก 2-3 หาบ และไข่ไก่ 100 ฟอง โดยนำพริกแดงมาร้อยที่ก้านธูปหรือทางมะพร้าว ทำทีว่าเป็นหาบ ส่วนไข่ก็นำมา ร้อยเชือกเป็นเคล็ดว่าร้อยฟอง

เหตุการณ์ปาฏิหาริย์ ที่เชื่อว่าเกิดจากความศักดิ์สิทธิ์ของ พ่อตาโต๊ะเเซะ  เเละเป็นข่าวโด่งดังก็คือ การรอดชีวิตของชายชาวประมงคนหนึ่ง  ที่ได้ถูกคลื่นพัดไปติดเกาะร้าง หลังจากเขาได้ออกเดินเรือไปผจญกับพายุ สภาพร่างกายของเขาบอบช้ำจากการกระแทกกับก้อนหิน  ไม่สามารถที่จะเดินไปไหนได้ ต้องอาศัยนอนอยู่ในป่าบนเกาะ  บริเวณที่อาศัย นั้นมีสัตว์ป่า นานาชนิดไม่ว่าจะเป็นงู สัตว์เลื้อยคลานต่างๆ  และไม่ได้กินอะไรเป็นอาหารเลยเป็นเวลา 5 วัน กินเพียงน้ำที่ไหลออกมาจากซอกหินเท่านั้น เขาคิดว่า คงหมดหวังที่จะได้กลับ หากยังไม่มีใครช่วยเหลือก็จะกระโดดหน้าผาเพื่อฆ่าตัวตาย ก่อนที่ความหวังจะหมดสิ้น เขาก็ได้บนพ่อตาโต๊ะแซะ ซึ่งเป็น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนภูเก็ตเคารพนับถือขอให้รอดชีวิตกลับมา เพื่อดูแลครอบครัว   ในที่สุดหน่วยเรือตำรวจน้ำภูเก็ต ได้พากันมาช่วยเขาได้ ทั้งๆ ที่เกาะร้างนี้ ไม่ได้อยู่ในแผนที่เลย แต่ก็สามารถหาเขาจนพบ  เมื่อขึ้นฝั่งได้ ตัวเขาก็รีบไปกราบเเก้บนพ่อตาโต๊ะแซะทั้งสามองค์

สถานะของสิ่งศักดิ์สิทธิ์คงอยู่ได้ด้วยแรงศรัทธา จากผู้ที่เคารพสักการะ ภาพผู้คนที่แวะเวียนมาถวายเครื่องเซ่นไหว้ และสวดอธิษฐานร้องขอสิ่งที่ตนเองต้องการ แล้วลาจากไปด้วยนัยน์ตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวังจากศาลเจ้าพ่อตาโต๊ะแซะ  เป็นภาพที่คุ้นชินของชาวภูเก็ต มายาวนานและไม่มีทีท่าว่าจะแปรเปลี่ยนไปจากนี้  สภาพสังคมในลักษณะที่ไม่พยายามตั้งคำถามกับความ “เคลือบแคลง” แต่เลือกที่จะศรัทธาด้วย “ความเชื่อ” เช่นนี้ คงเป็นอีกรูปแบบของวัฒนธรรมที่เวลาเท่านั้น จะสามารถจำกัดความหมายได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมไทยต้องการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่พึ่งทางจิตใจเสมอมา

***หมายเหตุ*** ข้อมูลประกอบบทความนี้ ได้มาจากการรวบรวมทางเอกสาร, คำบอกเล่า, และข่าวสาร


View ที่กินที่เที่ยว จังหวัดภูเก็ต in a larger map

Related Post

14 Comments

  • ถึงเพื่อนต่างศาสนิก
    …สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับศาสนาอิสลามนะครับ
    ศาสนาอิสลาม ไม่มีรูปเคารพ ไม่กราบไหว้รูปเคารพในลักษณะนี้
    อย่าใช้ความเชื่อแบบนี้ไปกล่าวอ้างว่าเป็นอิสลามน่ะครับ

    Reply
  • ถึง…ทุกคนที่ได้เข้าอ่านหน้านี้

    จะมายืนยันและช่วยยืนยันว่าสิ่งนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับศาสนาอิสลามเลยจริงๆ
    เพราะอิสลามจะไม่กราบไหว้รูปปั้น รูปเคารพใดๆ อื่น นอกเจ้าพระเจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น

    Reply
  • ถึง…____กรุณาเอาภาพที่่มีอักษรภาษาอาหรับด้านหลังออกไปด้วยเถอะ__ทามอย่างนี้ใครที่แค่เห็นรูปเค้าไม่มองว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ในหมู่อิสลามหรือ____

    Reply
  • · Edit

    อืม..จากที่ผมได้อ่านประวัติความเป็นมาเนี่ย จักเห็นได้ว่าคนในละแวกนั้นน่ะครับ คงจะเป็นพื้นที่ประชากรอิสลามไม่มีความรู้ทางศาสนาอิสลามที่แท้จริง จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราๆทุกคน ต้องช่วยกันหาทางช่วยเหลือพวกเขา ซึ่งผมจะบอกว่าใครที่ความสามารถที่จะไปให้ความรู้แก่พวกเขาได้นั้นก็ขอให้ไปเถอะครับ เพราะว่าพวกเราคือพี่น้องกันน่ะครับ
    จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ วัสลาม

    Reply
  • คนที่ไม่เข้าใจ คงเข้าใจผิด วอนขอให้ผู้ที่จัดตั้งโปรดเห็นใจด้วย ไม่อยากให้ความเชื่อของศาสนาผิดไปค่ะ

    Reply
  • · Edit

    ขอให้พี่น้องมุสลิมช่วยกันช่วยเหลือพี่น้องในภูเกตให้ออกห่างจากสิ่งนี้ก่อนที่เขาจะไม่มีโอกาศเตาบัต

    Reply
  • ถึง…ผู้ที่รู้และผู้ไม่รู้

    ดิฉันรู้สึกแย่ในความไม่รู้ของผู้ที่แสดงออกให้ผู้คนที่ไม่รู้ลึกเรื่องศาสนาอิสลามอันสูงส่งของเรา เค้าไม่มีสิทธิ์ได้รับรู้ความจริงเลยว่าสิ่งนั้นมันผิดหลักศาสนาอิสลาม ไม่สามารถทำได้เด็ดขาด แต่ในเมื่อเรื่องราวพยายามเกี่ยวโยงให้มาเกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลามของเรา เราไม่สามารถแก้ไขเรื่องราวในอดีตของพวกเขาได้ แต่ได้โปรดอย่าใช้รูปธรรมที่เป็นภาพลักษณ์ของศาสนาอิสลามเลย มันแย่มากที่คุณจะศรัธทาในเจ้าพ่อแต่แสดงภาพลักษณ์ไม่เหมาะสมเลย ความศรัทธาและความเชื่อของคุณ ทำไมต้องเกี่ยวโยงกับการเอาบทอัลกุรอ่านไปติดโดยที่เพียงแค่คุนจะแสดงออกว่าศาลเจ้าพ่อแห่งนี้มีเรื่องเล่ามาจากศาสนาอิสลามหรือ………………..มันไม่เหมาะสมเลย…………..ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและศรัทธาในศาลแห่งนี้ช่วยหยุดคิดหน่อยได้มั้ย…คุนเคยเห็นอะไรประเภทนี้ในโลกใบนี้ไหม…
    ศาสนาอิสลามไม่เคยมีรูปปั้นที่สร้างขึ้นแล้วบูชา…..ไม่มีและห้ามคิดที่จะมีด้วย…หรือเพียงแค่คุนจะจับจุดให้เด่นเพื่อโด่งดังในทางที่ผิดหยิบยกอะไรผิดหลักศาสนาอิสลาม…………….มาสร้างโดยที่ไม่เคยศึกษาที่มาของหลักศาสนาเลย..คิดเพียงแค่จะสนองความต้องการของคุนแล้วไม่เคยศึกษาที่มาแล้วนึกไปเองว่าศาสนาอิ่นๆในโลกใบนี้เหมือนกันกับศาสนาอิสลาม….คุนคิดผิดจิงๆ

    Reply
  • · Edit

    กรุณาช่วยดึง แผ่นอัลกุรอ่าน ข้างหลังออกด้วยนะครับ อิสลามเราไม่มีการไหว้รูปปั้นเจว็ดต่างๆๆ ผมเห็นด้วยกับคุณ
    อิบนู ฮุเซน ว่าเราต้องช่วยเหลือกันในเรื่องนี้ ก่อนบะลา รอบสองจะมาเยือนนะครับ

    Reply
  • · Edit

    ขอความสันติสุขจงประสบแด่ท่าน
    ..
    หากสิ่งต่างๆที่ปรากฎหาใช่หลักการของอิสลามแล้วไซร้ ด้วยเหตุอันใดมันจึงเป็นอยู่อย่างนี้ โดยไม่มีใครมาบอกข้อเท็จจริงที่ถูกต้องล่ะ

    Reply
  • สวัสดีครับ……..อย่าเพิ่งตกใจไปครับมันมีมานานแล้วครับภาษาที่ใช้เขียนเป็นภาษาอาหรับนะครับแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นอายะห์อัลกุรอานหรือเปล่า ขอตรวจสอบหน่อยนะ เราคนในพื้นที่ครับ

    Reply
  • ส่วนมากคนที่ไม่นับถือรูปปั้นรูปเจว็ด ก้อจะไม่ไปยังสถานที่ดังกล่าวในเว็บไซต์ของอาจาร มูรีด ก็อไม่ชัดเจน นะครับใช้คำว่าอาจจะ นะครับ อาหรับที่เป็นกาเฟรมีหรือปล่าว? คนในพื้นที่ไม่ได้อยู่เฉยหรอกครับ

    Reply
  • · Edit

    บนโลกใบนี้มีเรื่องแปลก ๆ อีกเยอะ
    อีกไม่นาน โลกเราคงถึงปาวสานแล้ว
    อิงชาอัลลอฮ. เราเตรียมเสบียงไปใช้ในวันกียะมะฮ กันหรือยังค่ะ…….

    Reply
  • · Edit

    السلام عليكم ورحمة الله وبركا ته

    ท่านพี่น้องผู้มีศรัทธาทั้งหลายครับ
    เนื่องจากผมเป็นชาวภูเก็ตที่นับถือศาสนาอิสลาม ไม่เห็นด้วยในการทำศาลเจ้าให้แก่โต๊ะแซะ เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นการทำชีริกต่อพระผู้เป็นเจ้าของศาสนาเรา ผมว่า…ถ้าหากเป็นไปได้ควรที่จะรื้อทุ่มเสีย และอีกอย่างอัลลอฮได้ตรัสว่า..” จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า สิ่งใดใหญ่ยิ่งกว่าในการเป็นพยาน จงกล่าวเถิดว่าอัลลอฮ์นั้นคือผู้เป็นพยานระหว่างฉันกับพวกท่าน และอัล-กรุอานนี้ก็ได้ถูกประทานลงมาแก่ฉัน เพื่อที่ฉันจะได้ใช้อัลกรุอาน นี้ตักเตือนพวกท่าน และผู้ที่อัลกรุอานนี้ไปถึงพวกท่านจะยืนยันโดยแน่นอนกระนั้นหรือว่า มีบรรดาที่เคารพสักการะอื่นร่วมกับอัลลอฮ์? จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าฉันจะไม่ยืนยัน จงกล่าวเถิด แท้จริงพระองค์นั้นคือผู้ที่ควรแก่การเคารพสักการะแต่เพียงองค์เดียวเท่านั้น และแท้จริงฉันขอปลีกตัวอกจากสิ่งที่พวกท่านให้มีภาคี(แก่อัลลอฮ์)ซูเราะห์อัล-อันอาม อายะห์ที่19……จากมุสลิมภูเก็ต والسلام

    Reply
  • · Edit

    และอีกอย่าง ภาษาอาหรับข้างหลังเจว็ดนั้น ผมว่ามันน่าจะมี กะลามุลลอฮ อยู่ ใครที่อยู่แถวนั้นว่างๆ…ไปดึงออกเสีย….นะครับ หากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา….อย่างจริงจัง(อย่าให้เขาดูถูกว่ามุสลิมไปกราบไหว้เจว็ด)นะครับ…นะอูซุบิลลาฮ์ นะอูซุบิลลาฮ์ นะอูซุบิลลาฮ์ ขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ ครับ ด้วยความหวังดีจาก มุสลิมด้วยกันครับ..วัสลาม

    Reply

ร่วมแสดงความคิดเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.