เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต หารือผู้ประกอบกิจการเรือยอชต์

เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต หารือผู้ประกอบกิจการเรือยอชต์

เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตหารือผู้ประกอบกิจการเรือยอชต์
เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตหารือผู้ประกอบกิจการเรือยอชต์กรณีเรือต่างประเทศทำกิจกรรมในน่านน้ำไทยตามแผนการจัดมหกรรมเรือสำราญ เตรียมพร้อมไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าและอาเซียน

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 11 พฤษภาคม 2558 ที่ห้องประชุมกลุ่มจังหวัดอันดามัน ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต กรมเจ้าท่า โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต จัดการประชุมหารือผู้ประกอบกิจการเกี่ยวเนื่องกับเรือยอชต์ และรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องการนำเรือ Super Yacht เข้ามากิจกรรมในน่านน้ำไทย ภายใต้แผนการจัดมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน ( Thailand : Marina Hub of ASEAN) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและรับทราบข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามแผนการจัดมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน โดยมีนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า นางจิราภรณ์ จันทรศิริ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (ฝ่ายบริหาร)  ผู้บริหารกรมเจ้าท่า หัวหน้าส่วนราชการเกี่ยวข้อง ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการมารีน่าและท่องเที่ยวทางทะเลด้วยเรือสำราญกีฬาทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมจำนวนมาก

สำหรับการจัดประชุมดังกล่าว สืบเนื่องจากกรมเจ้าท่าได้มีการเสนอร่างโครงการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน  ด้วยศักยภาพทางด้านภูมิประเทศและสิ่งอำนวยความสะดวกบนฝั่งที่ดีพอที่จะดึงดูดให้มีการลงทุนก่อสร้างมารีน่าเพิ่มเติม รวมทั้งการตอบสนองอุปสงค์ของเรือสำราญในปัจจุบัน นอกจากนนี้ยังเป็นการสนองตอบนโยบายของรัฐบาลในการทำให้ภูเก็ตเป็นมารีฮับด้วย  แต่ที่ผ่านมายังมีปัญหาอุปสรรคในเรื่องต่าง ๆ เช่น ข้อกฎหมาย ระยะเวลาพำนักในประเทศ และระยะเวลาเก็บเรือในประเทศ การแจ้งเรือเข้าออก การจดทะเบียนเรือไทย การทำการค้าในน่านน้ำไทย เป็นต้น จึงได้มีการเสนอเพื่อขับเคลื่อนโครงการ โดยกำหนดจัดมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า ในช่วงปลายปี การประชาสัมพันธ์ให้เห็นความตั้งใจจริงและความพร้อมของภาครัฐ รวมทั้งการเปิดตัวโครงการนำร่องในการนำเรือสำราญขนาดใหญ่มาให้บริการในประเทศไทย

อย่างไรก็ตามจากการรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกบการส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะมีการดำเนินกิจกรรมดังกล่าว รวมถึงการให้สามารถนำเรือยอชต์ขนาดใหญ่มาให้บริการในประเทศไทยด้วย แต่ขอให้มีความรัดกุมในเรื่องของข้อกฎหมายต่างๆ และจะต้องให้ประเทศไทยได้ประโยชน์อย่างแท้จริง

นายจุฬา กล่าวว่า ในส่วนของข้อกฎหมายต่างๆ ที่มีปัญหาอยู่นั้นก็เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ก่อนที่จะมีการจัดมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า เพื่อเป็นการเปิดตัวโครงการและเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วม ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการดึงดูกนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งให้เข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศไทยมากขึ้น

[fbalbum url=https://www.facebook.com/media/set/?set=a.10152922750404576.1073742112.46585549575]

Related Post

ร่วมแสดงความคิดเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.