เทศกาลถือศีลกินผักก็ใกล้จะเปิดฉากขึ้นแล้วในวันที่ 18-26 ตุลาคมนี้ มีหรือเราจะพลาดที่จะนำเสนอเรื่องราวอันน่าสนใจแก่ท่านผู้อ่าน ประเพณีนี้นับเป็นของคู่เมืองภูเก็ตก็ว่าได้ ด้วยสายธารแห่งความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์นี้มาช้านาน เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า เหตุใดวัฒนธรรมกินเจที่ภูเก็ตจึงได้รับความสนใจมาโดยตลอด Phuketindex.Com ขอรวบรวมประวัติความเป็นมาศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ในจังหวัดภูเก็ต โดยประเดิมที่ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย และโปรดรอติดตามศาลเจ้าอื่นๆ ที่เราจะนำมาเสนออย่างครบถ้วน
ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย หรือ จุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง เป็นศาลเจ้าจีนในจังหวัดภูเก็ต ตั้งอยู่ที่ ซอยภูธร ถนนระนอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยความหมาย ของคำว่า จุ้ยตุ่ย จุ้ยแปลว่า น้ำ ตุ่ย แปลว่า ครกตำข้าว สมัยก่อนนั้น หน้าบริเวณศาลเจ้า เป็นคลอง กว้าง มีน้ำมาก ชาวบ้านจึงสร้างกังหันขึ้น เพื่อใช้กำลังจากน้ำมาตำข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้ว
ประวัติความเป็นมา
แรกเริ่มเดิมทีเมื่อเจ็ดสิบกว่าปีที่แล้ว มีงิ้วคณะหนึ่งได้นำคณะล่องใต้ไปแสดงตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งคณะงิ้วจะต้องอัญเชิญ กิ้วอ๋อง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขานับถือ สักการบูชาอย่างสูงให้ท่านติดตามไปคุ้มครองปกปักรักษาให้พวกเขาอยู่เย็นเป็นสุขตลอดมา
ต่อมาคณะงิ้วดังกล่าวได้เดินทางมาถึงจังหวัดภูเก็ต ก็ได้เริ่มทำการแสดงที่ซอยรมณีย์ทางด้านวัดมงคลนิมิต (ซึ่งคนพื้นเมืองของจังหวัดภูเก็ตเรียกซอยรมณีย์ว่า อ่างอ่าหล่าย) คณะงิ้วได้มาอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตนานพอประมาณ ระหว่างที่คณะงิ้วอยู่ภูเก็ตนั้นจัดได้ว่าให้มีพิธีกินผัก(กินเจ) กัน เริ่มขึ้นในเดือน 11 ขึ้น 1 ค่ำ ก่อนถึงวันกินเจพวกงิ้วจะปัดกวาด ล้างชำระสถานที่เครื่องใช้ หม้อข้าว ถ้วยชาม และสิ่งของที่จะประกอบในพิธีให้สะอาด ผู้ที่จะเข้าร่วมในพิธีจะต้องแต่งตัว นุ่งขาว ในพิธีการกินเจมีทั้งหมด 9 วัน 9 คืน
ในสมัยนั้นก็มีพี่น้องชาวภูเก็ต ทั้งคนจีน และคนไทย ก็ได้เข้าร่วมในพิธีการถือศีลกินเจกับคณะงิ้วด้วย พี่น้องชาวภูเก็ตของเราก็ได้ศึกษา ปฏิบัติ พิธีการต่าง ๆ ตั้งแต่วันเริ่มงานกินเจจนเสร็จพิธี จะมีพิธีขึ้นเสาโกเต้ง มีตะเกียงน้ำมัน 9 ดวงซึ่งเป็นสัญญาลักษณ์ของพิธีการกินเจได้เริ่มขึ้นแล้วในพิธีการกินเจก็มี การประทับทรงพระทำพิธี ลุยไฟ สงเดาะเคราะห์อาบน้ำมันซึ่งกำลังเดือด พิธีไหว้เทวดา มีการแห่ขบวนไปตามถนนสายต่าง ๆ พอครบกำหนด 9 วัน 9 คืน ก็เป็นอันเสร็จพิธีการกินเจ
เมื่อพวกงิ้วหมดธุรการแสดงงิ้ว ต่างก็เก็บข้าวของเตรียมจะเดินทางกลับภูมิลำเนาของตน หัวหน้าคณะของงิ้วได้พิจารณาเห็นว่าพี่น้องชาวภูเก็ตทั้งคนจีนและคนไทยมี ความเลื่อมใสศรัทธาในพิธีการถือศีล กินเจ เขาก็ได้อัญเชิญเฮี้ยวโห้ย ( ไฟศักดิ์สิทธิ์ ) และสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งจะในพิธีการกินเจ ให้ไว้กับพี่น้องชาวภูเก็ตไว้ดำเนินพิธีการกินเจต่อไปพี่น้องชาวภูเก็ตต่าง พร้อมใจกันจัดตั้งเป็นศาลเจ้าขึ้นที่อ่างอ่าหล่าย (ซอยรมณีย์)
ต่อมาได้เกิดไฟไหม้จากบริเวณบ้านเรือนจึงลามมายังบริเวณศาลเจ้า ชาวบ้านจึงได้อันเชิญเฮี้ยวโห้ย ( ไฟศักดิ์สิทธิ์ ) มาฝากไว้ยังศาลเจ้าปุดจ้อ และเมื่อถึงเวลากินผักก็จะอันเชิญมายังศาลเจ้าชั่วคราวที่ชาวบ้านช่วยกัย สร้างขึ้น ณ สวนพูข้างศาลเจ้าปุดจ้อ ต่อมาเจ้าของสวนพูได้ถวายที่ดินแปลงนี้ให้ “กิวอ๋องไต่เต่” สร้างเป็นศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย ซึ่งหลังแรกได้สร้างด้วยเป็นหลังคามุงจาก ในปี พ.ศ. 2454 ต่อมาเมื่อในปี พ.ศ. 2525 ชาวบ้านเข้าร่วมพิธีถือศีลกินผักมากขึ้น จึงได้ร่วมใจกันบริจาคทรัพย์เพื่อพัฒนาศาลเจ้ามาตราบจนปัจจุบัน และเปลี่ยนมาเป็น “มูลนิธิจุ้ยตุ่ย เต้าโบ้เก้ง”
ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยตั้งอยู่ที่ เลขที่ 283 ถนนภูธร อำเภอเมืองภูเก็ต
View ที่กินที่เที่ยว จังหวัดภูเก็ต in a larger map