เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 กันยายน 2552 ที่ห้องประชุมโรงเรียนสตรีภูเก็ต นายปิยะ ภรตะศิลปิน ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมอบรมเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา ประจำปี 2552 โดยมีนายเกียรติศักดิ์ ปิลวาสน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีภูเก็ต นายถนัด ขวัญนิมิตร ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาภูเก็ต พอ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา วิทยากรผู้ให้ความรู้ ครู อาจารย์ นักเรียนจากโรงเรียนมัธยมศึกษา โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาระดับมัธยมศึกษาในจังหวัดภูเก็ต และผู้ปกครองนักเรียน เข้าร่วม
นายถนัด กล่าวว่า กระทรวงศึกษาได้ประกาศวาระ “ปีแห่งการดูแลช่วยเหลือนักเรียน” เริ่มต้นในปีการศึกษา 2551 เป็นต้นมา ส่งผลให้หน่วยงานทางการศึกษาทุกหน่วยเกิดการขับเคลื่อนการดูแลช่วยเหลือนักเรียนทั้งระบบ โดยเฉพาะสถานศึกษาทั้งในโรงเรียนมัธยมศึกษา โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาทุกแห่ง และโรงเรียนในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยได้มีการส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาในสังกัดดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้เกิดความเข้มแข็งด้วยวิธีต่าง ๆ อย่างหลากหลายรูปแบบตามบริบทของตนเองและต่อเนื่องทุกโรงเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภูเก็ตจึงได้กำหนดจัดการประชุมอบรมเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา ประจำปี 2552 ขึ้น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานสร้างความเข้มแข็งของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
รวมถึงเพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจการรับผิดชอบดูแลนักเรียนทั้ง 4 ด้านอันประกอบด้วย นักเรียนทุกคนต้องมีที่เรียน เด็กด้อยโอกาสต้องได้รับการดูแลช่วยเหลือทุกคน เด็กยากจนต้องมีรายได้จากการทำงานปิดภาคเรียนและเด็กทุกคนต้องมีสุขภาพดีไม่มีเด็กติดยาเสพติดและใช้ความรุนแรง ซึ่งจะต้องมีความร่วมมือกันอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครอง โรงเรียน เขตพื้นที่การศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย อันจะส่งผลต่อคุณภาพการจัดการศึกษาโดยรวมต่อไป
สำหรับการประชุมฯ ครั้งนี้ มี นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา เป็นวิทยากรในการให้ความรู้ ชี้แนะแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยแบ่งการประชุมออกเป็น 3 ช่วงประกอบด้วย ช่วงเช้าเป็นการให้ความรู้แก่นักเรียนโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาระดับมัธยมศึกษา, ช่วงบ่ายเป็นนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมศึกษา และช่วงค่ำ เป็นการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองของนักเรียนที่เข้ารับการอบรมในช่วงเช้าและช่วงบ่าย ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง รวมผู้รับการประชุมอบรมฯ ครั้งนี้ทั้งสิ้น 3,000 คน