“โตโยต้า คัมรี ไฮบริด” รถยนต์พลังงานทางเลือกครั้งแรกในเอเชีย ที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นำมาแปลงโฉมใหม่ให้ขับเคลื่อนโดยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า หวังสร้างยุคใหม่ของ ไฮบริด ในตลาดรถยนต์เมืองไทยและตลาดเอเชียให้เกิดขึ้นโดยมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าคัมรี ไฮบริดนี้จะเป็นโมเดลสำคัญที่พลิกฟื้นตลาดรถยนต์ให้กลับมากระเตื้องได้อีกครั้ง
คัมรี ไฮบริด รุ่นไมเนอร์เชนจ์ มีรูปโฉมภายนอกที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งกระจังหน้า กันชน และไฟท้าย ให้โดดเด่นและโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น ส่วนรูปลักษณ์ภายในก็ปรับโฉมใหม่เช่นกัน โดยผู้บริหารของโตโยต้าออกมาการันตีว่าจะต้องสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับ ตลาดรถยนต์หรูได้แน่นอน เพราะเมดอินไทยแลนด์ขนานแท้จากโรงงานผลิตรถยนต์โตโยต้า เกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าและประหยัดน้ำมันได้มากกว่ารุ่นเดิมถึง 30% ถือว่าเป็นนวัตกรรมไฮบริด ที่มีความหลากหลายในคุณประโยชน์ ทั้งประหยัดน้ำมัน สมรรถนะเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง ประสบการณ์การขับขี่อันรื่นรมย์ ตลอดจนความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับหัวใจของคัมรี ไฮบริด อยู่ที่แบตเตอรี่พลังงานสีเขียว ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าได้พัฒนาระบบแบตเตอรี่ที่เชื่อถือได้ และมีคุณภาพสูง โดยจากการทดสอบที่ผ่านมา พบปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบไฮบริดเพียง 0.002% เท่านั้น ขณะเดียวกันโตโยต้ายังเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ทุกคน ด้วยการยืดอายุประกันแบตเตอรี่หรือรับประกันรถยนต์เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. จากเดิมรับประกัน 3 ปีเท่านั้น
ตอบสนองทุกการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson-Cycle รหัส 2AZ-FXE ขนาด 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ที่ 6000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 187 นิวตันเมตร ผสานการทำงานอย่างฉลาดและฉับไว กับชุดมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร โดยพลังจากทั้งสองระบบที่สามารถให้แรงม้าสูงสุดได้ 140 กิโลวัตต์ ที่ 6500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดจากเครื่องยนต์ 187 นิวตันเมตรที่ 4400 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้า 270 นิวตันเมตรที่ 0-1500 รอบต่อนาที
ชุดมอเตอร์ ประกอบด้วย
– มอเตอร์เจนเนเรเตอร์ MG 1 สร้างกระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรีไฮบริด และส่งกระแสไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ขับเคลื่อน MG2 และยังทำหน้าที่เป็นมอเตอร์สตารท์เครื่องยนต์
– มอเตอร์ขับเคลื่อน MG 2 ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนโดยใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากมอเตอร์ เจนเนเรเตอร์ MG 1 และชาร์จไฟจากการชะลอความเร็ว หรือ การเบรก เก็บไว้ใน แบตเตอรีไฮบริด ลดการสูญเปล่าของพลังงาน
– ออกตัวได้อย่างรวดเร็วด้วยแรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้าที่สูงถึง 270 นิวตันเมตรตั้งแต่เริ่มออกตัว
– ในขณะขับขี่ การทำงานประสานกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะส่งผลให้รถมีอัตราเร่งแซงฉับไว
– ระบบ ตัดต่อกำลัง Power Split Device ทำหน้าที่ตัดต่อและผสมผสานกำลังจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อส่งต่อไปที่เฟืองท้ายเพื่อการขับเคลื่อน อีกส่วนหนึ่งจะใช้สำหรับการสร้างกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ในแบตเตอรีไฮบริด
– ชุดอินเวอร์เตอร์ แปลงกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรีไฮบริดเป็นกระแสสลับความดันสูง 650 โวลต์ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อน และแปลงกระแสไฟฟ้าลงเพื่อนำกระแสไฟฟ้าที่ได้จากมอเตอร์ เจนเนอเรเตอร์ เก็บไว้ในแบตเตอรีไฮบริดเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนต่อไป
– แบตเตอรีไฮบริด ชนิด nickel-metal hydride แหล่งเก็บประจุไฟฟ้าสำหรับพลังงานขับเคลื่อน ออกแบบใช้งานยาวนานเทียบเท่าอายุรถยนต์ ปลอดภัยสูงสุดด้วยชุดควบคุมด้วย ECU ตัดกระแสไฟทันที เมื่อเกิดสิ่งผิดปกติ หุ้มฉนวนไฟฟ้าป้องกันไฟช๊อต พร้อม service plug ตัดกระแสไฟ ที่เก็บแบตเตอรีไฮบริดอยู่ในตำแหน่งปลอดภัยต่อการชนและไม่เปลืองพื้นที่เก็บ สัมภาระด้านหลังรถ พร้อมรับประกันคุณภาพ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
อัจฉริยะ …..สำหรับประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด…
– ประหยัดน้ำมันกว่าเครื่องยนต์ธรรมดา
– ออกตัวด้วยระบบไฟฟ้า ไม่สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
– มีมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยการขับเคลื่อน และเครื่องยนต์หยุดทำงานบางขณะ ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง
– ขณะขับขี่แบบปกติเครื่องยนต์ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เครื่องยนต์ทำงานน้อยลง
– ในขณะชะลอความเร็ว หรือเบรก ระบบเบรกไฟฟ้า จะมีส่วนช่วยชะลอความเร็วพร้อมชาร์จไฟกลับเข้ามาเก็บในแบตเตอรี ไฮบริด เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานในการขับเคลื่อน ลดการสูญเปล่าของพลังงาน
– คอมเพรสเซอร์ แอร์แบบไฟฟ้า และพวงมาลัยไฟฟ้า EPS ไม่ใช้กำลังจากเครื่องยนต์ ช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น
– ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานที่ 0.29 ตามหลักอากาศพลศาสตร์ของยานยนต์ชั้นสูง ช่วยลดภาระของเครื่องยนต์
– ติดตั้งแผ่นปิดเครื่องยนต์ด้านล่าง เพื่อความไหลลื่นของอากาศใต้ตัวรถ พร้อมแผ่นปิดด้านล่าง ด้านหลัง และแผ่นปิดพร้อมครีบบริเวณจุดต่ำสุดของถังน้ำมัน
อัจฉริยะ ….. เพื่อความเงียบ…สบาย ตลอดการเดินทาง
– ระบบเครื่องปรับอากาศทำงานด้วยไฟฟ้า พร้อมพลาสม่า คลัสเตอร์ ให้อากาศภายในรถสะอาดสดชื่น
– ขณะหยุดรถและออกตัว ระบบเครื่องยนต์จะยังไม่ทำงาน (ขึ้นอยู่กับปริมาณไฟในแบตเตอรีไฮบริด) ซึ่งจะช่วยลดเสียงรบกวน
– ห้องโดยสารที่เงียบ ด้วยระบบซับและป้องกันเสียง เพื่อความเงียบเฉกเช่นยานยนต์ระดับหรูตลอดจนกระจกบานหน้าออกแบบพิเศษ ป้องกันเสียงสะท้อนจากเครื่องยนต์ (Acoustic Glass)
ที่มา : Caronline / Toyota