ช่วงนี้ใครๆ ก็ทำงานที่บ้าน WFH ด้วยเหตุผลต่างๆ แล้วแต่ความสะดวกและนโยบายองค์กรแต่และที่ ทำงานที่บ้านมีหลายคนบ่นว่าอยู่แต่หน้าคอมฯ “เมื่อยก้นไปหมดแล้ว” หรือไม่ก็ “เก้าอี้จะไม่ใช่ของใช้อันนึงแล้ว เกือบจะเป็นอวัยวะอันหนึ่งแล้ว”
วันนี้เลยลองเสิร์ชหาอะไรทำดู เผื่อจะมีงานอดิเรกเพิ่ม พักเบรคสายตาจากจอคอมฯ บ้าง เห็นเค้าฮิตชงกาแฟทานกัน ทั้งกาแฟใส่น้ำส้มคั้น คาแฟแบบดิฟ ฯลฯ เลยไปหาอุปกรณ์ดู ที่บ้านมีแต่เจ้า “เฟรนช์เพรส – French Press” หาข้อมูลดูก็ปรากฎว่ามันดีทีเดียว ใช้ชงกาแฟได้แถมเค้ายังบอกว่า เจ้าเครื่องนี้จะให้รสชาติกาแฟที่แท้ทรู ให้รสที่ดิบกว่า เข้มกว่าแบบดริป น่าจะเป็นเพราะตอนแช่กาแฟจะมีน้ำมันหอมละเหยจากเมล็ดกาแฟออกมาด้วย
ได้อุปกรณ์แล้วก็หาเมล็ดกาแฟกัน พอดีมีน้องที่รู้จักแนะนำเว็บฯ ขายเมล็ดกาแฟออนไลน์ Coffee Culture Thailand ซึ่งเป็นแหล่งเมล็ดกาแฟออนไลน์ดีๆ ที่หลายคนยังไม่รู้ ในเว็บฯ มีกาแฟให้เลือกเยอะ ใครยังไม่มีอุปกรณ์เค้าก็มีขาย ที่สำคัญมีแนะนำวิธีการชงสำหรับมือใหม่ให้ด้วย
เปิดมาตอนแรกก็จะเจอหน้าแบบนี้ บอกว่าเค้าเป็นแหล่งกาแฟไทยส่งถึงบ้าน ที่สำคัญเค้ามีไลฟ์แชทด้วยนะ อุ่นใจหน่อย เหมาะสำหรับมือใหม่หัดชงจริงๆ นี่ก็ปรึกษาทีมงานไป และถ่ายรูปให้ดูว่ามีเครื่องชงแบบนี้นะ เค้าก็จะแนะนำวิธีการชงกาแฟแบบง่ายๆ แล้วก็ส่ง link ประกอบมาให้อ่านด้วย สรุปว่า เฟรนช์เพรส – French Press ของเราใช้ชงกาแฟสดได้แถมยังชงแบบโคลด์บริวได้ด้วย วิธีชงกาแฟเฟรนช์เพรส (French Press)
เลื่อนลงมาข้างล่าง เค้าจะมีแนวทางให้เลือกซื้อกาแฟหลายแบบ เลือกจากระดับการคั่วกาแฟ เลือกกรรมวิธีการชง หรือเลือกจากสายพันธุ์ที่ต้องการ สะดวกแบบไหนก็คลิ๊กเข้าไปได้เลย อันนี้เราก็เลือกอันแรกเลย เลือกจากระดับการคั่ว
เข้ามาหน้าข้างใน มีจะหน้าให้เลือกว่าอยากได้กาแฟแบบไหน เลือกราคาและชนิดที่ต้องการได้เลย… เมนูด้านข้างจำแนกกาแฟโดยใช้เกณฑ์หลายแบบ รวมถึงมีอุปกรณ์ต่างๆ จำหน่ายด้วย ใครเป็นคอกาแฟกดเข้าไปดูเพลินเลย
เวลาเลือกซื้อกาแฟ ก่อนกดสั่ง เค้าจะให้ใส่ปริมาณที่ต้องการ และเลือกว่าอยากได้กาแฟคั่วประมาณไหน บดหรือไม่บด เอาไปชงกับเครื่องชงแบบไหน… กาแฟมีให้เลือกหลายสายพันธุ์มาก ราคาก็ขึ้นอยู่กับปริมาณที่เราสั่งด้วย
เราเป็นมือใหม่ยังไม่รู้จักกาแฟดี ไม่รู้จะสั่งสายพันธุ์ไหน ขอเลือกแบบเซฟๆ ลองแบบ Gift Sets ดีกว่า เพราะส่วนใหญ่เวลาเค้าจัดเซ็ตสินค้า เค้าก็จะเลือกตัวเด่นๆ มาให้แล้ว ราคาก็ดูคุ้มค่า
มีหลายเซ็ตมาก เลื่อนมาหน้า 2 เจอราคาเบาๆ สำหรับมือใหม่ ใน 3 เซ็ตนี้ มีเซ็ตกาแฟพร้อมอุปกรณ์ด้วย ราคาก็น่าคบหา ชุดแรกมีที่บดมาให้ด้วย แต่เรามือใหม่ขอแบบเบสิคเบื้องต้นง่ายๆ ชงกินได้เลย ให้เค้าบดมาเลยดีกว่า ขอลองดูก่อนว่าจะรอดไหม ^^
สรุปตำชุดนี้มาจ้า 490 บาท มีถุงใหญ่ 150 กรัม 1 ถุง ให้เลือกจาก 1 ใน 3 สายพันธุ์ไทยขายดีของร้าน (ขุนช่างเคี่ยน ดอยช้างพีเบอร์รี่ และกาแฟออร์แกนิคดอยมด) แถมถุงเล็ก 50 กรัม อีก 4 ถุงด้วย ส่งฟรีในไทยอีก ดีแท้ ประหยัด คุ้ม!
คิดอยู่นานว่าถุงใหญ่ 150 กรัม จะเลือกอะไรดี เห็นภาพตัวอย่างสินค้าเราก็เลือกตามเค้าสิคะ ขุนช่างเคี่ยน ถุงสีทองด้วย มันต้องดีงามแน่นอน กล่องแอบสวยนะเนี่ย เดี๋ยวรอดูของจริงกัน
อันนี้เป็นหน้าจ่ายเงินค่ะ มีหลายช่องทาง ใครสะดวกแบบไหนก็จัดการได้เลย PayPal / Alipay / bitcoin โอนเงิน หรือบัตรเครดิตรับหมด
ใครอยากได้ความรู้เพิ่มเติมเรื่องกาแฟเข้าไปดูได้ ภาษาไทยก็มี เข้าไปหน้า home คลิ๊กธงชาติไทย แล้วคลิ๊กคำว่า สูตร & เคล็ดลับ ตรงมุมขวาบน
นอกจากคอกาแฟแล้ว อยากประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ผลิตด้วย จากที่ดูในเว็บฯ Coffee Culture เค้าประกาศตัวเป็นตัวกลางกาแฟออนไลน์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ผลิต ดังนั้นโรงคั่วกาแฟสามารถติดต่อเค้าไปได้เลย…
และแล้วกาแฟก็มาถึง ส่งตรงถึงบ้าน รูปลักษณ์ตรงปกอยู่นะ เปิดกล่องมาก็หอมกาแฟเลย ไม่เข้าใจเหมือนกันเค้าซีลถุงมาอย่างดี แต่ก็ยังมีกลิ่นหอม ใครกำลังมองหาของขวัญส่งให้ผู้ใหญ่ สั่งชุดนี้ได้เลย ดูดี มีระดับ
ได้มาครบ ถุงใหญ่ 150 กรัม 1 ถุง และถุงเล็ก 50 กรัมอีกสี่ถุง สะดวกมากไม่ต้องไปหาขวดโหลใส่ เพราะเป็นถุงซิปล๊อคอย่างหนาทึบแสง อากาศและแสงเข้าไม่ได้ มีการ์ดแนบมาบอกว่าถ่ายรูปแล้วโพสลง IG แท็ก @coffeeculturethailand จะได้ส่วนลด 10% สำหรับการสั่งซื้อครั้งหน้าด้วย
มาลองชงกันเลยดีกว่า วันนี้จะลองถุงใหญ่ “ขุนช่างเคี่ยน”… ก่อนอื่นเตรียมอุปกรณ์ รวมถึงน้ำตาลและนมสดไม่มีนมข้นหวาน เพราะไปหาข้อมูลมาเค้าบอกว่า การชงด้วย French Press จะได้กาแฟที่เจือจางกว่าการชงกับเครื่องชงกาแฟ Espresso Machine ถ้าใส่นมสดรสชาติยังดีอยู่ แต่ถ้าใส่นมข้นหวานรสชาติจะไม่ค่อยอร่อย
ขั้นแรกอุ่นเครื่องชงให้ร้อน ด้วยการรินน้ำร้อนลงไป และเททิ้ง เป็นการล้างเครื่องไปในตัว แล้วใส่กาแฟในเครื่องชง สำหรับกาแฟใครจะซื้อเป็นเมล็ดมาบดเองก็ได้ เราให้ที่ร้านบดมาเลยสะดวกดี ตามประสามือใหม่หัดชง… แต่จากที่ไปหาข้อมูลมา เค้าบอกว่าถ้าบดเมล็ดกาแฟสดๆ ก่อนชง จะได้กาแฟกลิ่นหอมละมุนมากกว่า และบดกับเครื่องบดแบบเฟืองมือหมุนจะดีกว่าเครื่องบดไฟฟ้า เพราะผงกาแฟที่ได้จะละเอียดสม่ำเสมอกว่า
น้ำร้อนที่ใช้เค้าบอกว่าควรใช้น้ำร้อนประมาณ 94 องศาเซลเซียส เราประมาณเอาว่าน้ำเดือดแล้วยกลงจากเตานับ 1-15 ในใจแล้วเทได้… ปริมาณน้ำกับผงกาแฟเราใส่ผงกาแฟ 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 3 ถ้วยกาแฟแบบไม่เต็ม ประมาณ 300 มิลลิลิตร ไม่อยากทานเข้มไปเลยทีเดียว อยากค่อยๆ ค้นหารสชาติที่ใช่สำหรับเรา)
ขั้นตอนต่อไป เทน้ำร้อน 1 ใน 5 ของน้ำทั้งหมดลงไปในเครื่องชง แช่ไว้สักยี่สิบวินาทีโดยประมาณ ให้เกล็ดกาแฟมันบานเต็มที่ แล้วค่อยใส่น้ำที่เหลือ ใครที่อยากได้กาแฟดีแคฟ ให้ปิดฝาครอบ (plunger) กด เทน้ำออก แล้วเทน้ำร้อนปริมาณที่ต้องการซ้ำไปอีกครั้ง แช่ไว้จับเวลา 4 นาที เหมือนชงแบบปกติ
ใส่น้ำร้อนแล้วจับเวลา 4 นาที เพื่อบ่มกลิ่นกาแฟเอาไว้ ให้ปิดฝาเครื่องชงแต่ยังไม่ต้องกด การชงแบบนี้จะให้รสชาติกาแฟที่หนักแน่น และกลมกล่อมแบบ full body เนื่องจากน้ำมันธรรมชาติของเมล็ดกาแฟจะถูกสกัดออกมาในระหว่างการแช่ French Press ใช้เวลาพอๆ กับการชงแบบดริปแต่ทำง่ายกว่า ที่เห็นในภาพคือเกล็ดกาแฟค่อยๆ อิ่มตัวแล้วก็ตกลงไปที่ก้นเหยือก
ถ้าอยากให้กาแฟมีรสเข้ม สไตล์กาแฟ full body ให้ใช้ช้อนคนเบาๆ ให้ผงกาแฟตกลงไปนอนที่ก้นเหยือก แต่หากอยากได้กาแฟรสอ่อน ให้ใช้ช้อนตักผงกาแฟที่ลอยขึ้นมาเหนือน้ำกาแฟออกให้หมด ถ้าอยากได้แบบเปรี้ยวก็ให้ใช้กาแฟบดหยาบมากและปรับเวลาแช่กาแฟให้นานขึ้น
เมื่อครบ 4 นาที ให้กดฝากครอบ (plunger) ลงไปช้าๆ เท่านี้เราก็ได้กาแฟพร้อมเสิร์ฟแล้ว ตอนรินกาแฟอย่าเทจนหมด ให้เหลือไว้ก้นเหยือกประมาณ 10% ของเหยือก ส่วนนี้จะมีตะกอนกาแฟ… เสร็จสรรพเราก็ลองชิมแบบดิบๆ ไม่ปรุงเพิ่ม กาแฟหอมดีรสก็ไม่จืดนะ ตอนแรกเห็นน้ำสีไม่เข้มใจไม่ดี ต่อมาก็ลองใส่น้ำตาลและนมสดก็อร่อยไปอีกแบบ… ผลลัพธ์ >>> ทั้งวันใจไม่สั่น ตอนกลางคืนนอนหลับสบายดี ผ่านค่ะ
ชงกาแฟกินเองไม่ยากเลย แถมอร่อยถูกใจด้วย เดี๋ยวว่าจะลองทำกาแฟสกัดเย็นดู เห็นเค้าบอกว่า เจ้าเครื่อง French Press สามารถชงกาแฟสกัดเย็น หรือ Cold Brew Coffee ได้ด้วย แค่ใส่กาแฟพร้อมใส่น้ำเย็น แล้วนำไปแช่ตู้เย็นค้างคืนไว้ เช้ามาเปิดตู้เย็น กดกาแฟ เทลงแก้ว ก็ได้จิบกาแฟ cold brew สวยๆ แล้ว
ตอนนี้ชักติดใจการชงกาแฟ เดี๋ยวว่าจะลองหาเจ้า Moka Pot มาลองดู เค้าบอกว่าการต้มด้วย Moka Pot เป็นการต้มกาแฟที่บดละเอียด ผ่านน้ำร้อนทำให้ได้หัวกาแฟที่เข้มข้น Moka Pot จะให้รสชาติกาแฟคล้ายกับที่สกัดได้จากเครื่อง Espresso Machine เลยทีเดียว เปิดดูราคาแล้วก็โอเคอยู่ ( ราคา Moka Pot ) สอยมาเมื่อไหร่จะมาทำรีวิวให้ดูกันอีกนะคะ