เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 18 ส.ค. 52 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ นายนิพนธ์ บุญ ญภัทโร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไข ปัญหาของเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง กรณีปัญหาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและประชาชน เข้าร่วม
นายนิพนธ์ กล่าว ว่า ตามที่รัฐบาล มีนโยบายแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชุมชนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 165/2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.) โดยได้มอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์ หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการฯ และได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา นั้น เครือข่ายองค์กรชุมชนฯ มีข้อเสนอหลัก 2 ข้อ ประกอบด้วย เรื่องการแก้ปัญหาที่ดิน การแก้ปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล โดยเสนอรัฐบาลประกาศเป็นพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษของชาวเล โดยมีกรณีเร่งด่วนเรื่องหนี้นอกระบบของชาวเลบ้านราไวย์ จังหวัดภูเก็ต
ซึ่งในเบื้องต้น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้จังหวัดภูเก็ตหาแนวทางช่วยเหลือชาวเลชุมชนราไวย์ เป็นการเร่งด่วน ในการแก้ปัญหาดังกล่าวร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยสาระสำคัญในการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว คือ จาก การสำรวจ มีชาวเลราไวย์เป็นหนี้นอกระบบ จำนวน 158 ราย เป็นหนี้รวม 2,991,404 ราย แบ่งเป็น จำนวนเงินกู้ 439,010 บาท จำนวนดอกเบี้ยรวม 263,406 บาท (ดอกเบี้ยร้อยละ 60 บาทต่อเดือน) และจำนวนเงิน กู้ 2,552,394 บาท จำนวนดอกเบี้ยรวม 510,479 บาท (ดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาทต่อเดือน) มูลนิธิชุมชนไทและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ได้มีการแก้ปัญหาโดยการสนับสนุนให้ชาวเลจัดระบบการเงินใหม่ โดยทำการออมทรัพย์รายวัน รวมถึงทางสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ได้สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ทำให้สามารถแก้ปัญหาอัตราดอกเบี้ยสูงร้อยละ 60 ได้เป็นกลุ่มแรก ตลอดจนได้มีการรวมกลุ่มกันพัฒนาชุมชน นอกจากนี้นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ได้ประสานกับการประปาและการไฟฟ้าในการติด ตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าและน้ำประปาในให้แก่ชาวเลกลุ่มนี้
ด้านนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวดัภูเก็ต กล่าวว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่รัฐบาลได้ลงมาคลี่คลายเงินกู้นอกระบบชุมชนชาวเลรา ไวย์ ต่อจากนี้ไปคงต้องฝากพี่น้องชุมชนชาวเลราไวย์ ต้องหยุดเล่นการพนัน หยุดกินเหล้า ทางจังหวัดฯ จะมอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดฯ เข้าไปส่งเสริมอาชีพเพื่อไม่ให้กลุ่มแม่บ้านว่างงาน และเมื่อมีอาชีพเสริมแล้วจะช่วยเสริมรายได้อีกแนวทางหนึ่ง นอกจากนี้ในส่วนของปัญหาที่อยู่อาศัยของชาวเลราไวย์ ซึ่งอาศัยอยู่ในที่มีโฉนด 10 ไร่เศษ ของนายทุนจำนวน 4 ราย โดยบางส่วนชาวเลได้มีสัญญาเช่า บางส่วนบุกรุก เทศบาลตำบลราไวย์ เคยมีแนวคิดจะซื้อที่ดังกล่าว แต่ปรากฏว่ากลุ่มทุนได้ขายไร่ละ 10 ล้านบาทเศษ จึงต้องยกเลิกไป อย่างไรก็ตามทางจังหวัดฯ ได้คิดแก้ปัญหาโดยการเจรจากับเจ้าของที่