ผบ.ตร.ตรวจเยี่ยม สภ.กะทู้ มอบนโยบายดูแลความปลอดภัยประชาชน

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 17 สิงหาคม 2552 ที่ สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.พร้อมคณะได้มาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ โดยมี พล.ต.ท. สัณฐาน ชยานนท์ ผบช.ภ.8,พล.ต.ต.พิกัด ตันติงพษ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ตลอดจนรอง ผบก.ภจ.ว.ภูเก็ต และพ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผกก.สภ.กะทู้ ให้การต้อนรับ พร้อมนำตรวจเยี่ยมกำลังพล

โดยพล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า การมาในครั้งนี้เพื่อขอบคุณเจ้าหน้าทุกนายซึ่งปฏิบัติหน้าเป็นอย่างไรในคราวที่มีการจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 42 และการประชุมที่เกี่ยวข้องในระหว่างวันที่ 16-23 กรกฎาคมที่ผ่านมา และขอเป็นกำลังใจในการปฏิบัติงานในการดูแลพี่น้องประชาชนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะ สภ.กะทู้ เป็นพื้นที่สำคัญ

“เป้าหมายเดิมของการมาตรวจราชการที่ จ.ภูเก็ต เพื่อดูความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคมนี้  แต่ทราบข่าวจะมีการเปลี่ยนสถานที่จัดการประชุมไปเป็นหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กับ ชะอำ จ.เพชรบุรีแล้ว แต่แม้ว่าการประชุมดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงสถานที่ แต่ในการดูแลรักษาความปลอดภัย การอำนวยความยุติธรรม การบังคับใช้กฎมาย และการดูแลประชาชน ซึ่งถือเป็นหน้าที่หลัก เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีความต้องอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันในส่วนของผู้บังคับบัญชาก็จะต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติหน้าที่ตามสมประสงค์ที่วางไว้” พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าว

หลังจากการตรวจเยี่ยมกำลังพลแล้วยังได้รับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของ สภ.กะทู้ โดย ได้กล่าวว่าผลการดำเนินการด้านอาชญากรรมนั้นก็เป็นไปตามเป้าหมายมีปริมาณคดีเกิดขึ้นไม่มากนัก ส่วนปัญหากำลังพลก็คงต้องดำเนินการตามแนวนโยบายของทาง ผบช.ภ.8 และ ผบก.ภูเก็ต ซึ่งได้ให้แนวทางไว้แล้วในการดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม และที่อยากฝากไว้คือเรื่องของการติดตั้งกล่อง CCTV หากสามารถดำเนินการได้เต็มพื้นที่ก็จะช่วยในด้านการป้องกันและปราบปรามได้เป็นอย่างดี “ภาพรวมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สถานภาพปัญหาอาชญากรรมถือว่าควบคุมได้และอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่มีขวัญกำลังใจดี โดยในส่วนของกำลังซึ่งอาจจะมีไม่เพียงพอ ดังนั้นการให้ความรู้กับทั้งตำรวจ และประชาชนในการช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเรื่องของกำลังตำรวจซึ่งมีไม่เพียงพอทางภาคเอกชนจะต้องเข้ามาช่วย และเป็นนโยบายของ ผบช.ภ.8 และผบก.ภูเก็ตอยู่แล้ว ในบูรณาการความร่วมมือช่วยกันดูแลรักษาความปลอดภัยและแจ้งเบาะแสต่างๆ”

Related Post

ร่วมแสดงความคิดเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.