คณะกรรมการจัดการจราจรทางบกประจำจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเทศบาลตำบลรัษฎากำหนดให้เส้นทาง ซอยประวัติ ตั้งแต่บริเวณสี่แยกถนนเทพกระษัตรี – ถนนรัษฎาอนุสรณ์ มีการเดินทางรถทางเดียวมาตั้งแต่กลางปี 2551 จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากพิจารณาเห็นว่า หากเปิดให้มีการสัญจรไป-มาตามปกติ เมื่อเกิดอุบัติเหตุทั้งที่เกิดจากจักรยานยนต์หรือรถยนต์ จะส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดเพราะผิวจราจรภายในซอยคับแคบมาก และในช่วงที่ผ่านมามีการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจและบุคลากรของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตมาแล้ว และคณะกรรมการมีมติให้เปิดเส้นทางเดินรถทางเดียวในซอยประวัติต่อเนื่องไปจน ถึงถนนด้านข้างมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
อย่างไรก็ตามการเปิดเส้นทางเดินรถทางเดียวในซอยประวัติ-มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตตั้งแต่ต้น ในปัจจุบันยังคงมีกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตทั้งชายและหญิงและผู้ขับขี่รถยนต์บางส่วนขับขี่สวน ทางกันเพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา แม้ว่าจะมีการติดตั้งป้ายประกาศแจ้งไว้อย่างชัดเจนก็ตาม
สำหรับในช่วงที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและพนักงานเทศบาลตำบลรัษฎาคอยกวดขัน ตรวจสอบ จับกุมและแจ้งเตือนไม่ให้มีการขับขี่ยานพาหนะต่างๆ สวนทางกันเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและปรากฏว่าในเบื้องต้น ผู้ขับขี่หวั่นเกรงถูกจับกุมและปรับ จึงพยายามขับขี่ไปตามเส้นทางที่กำหนด แต่ในปัจจุบันกลับขับขี่กันตามความพึงพอใจ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกันเป็นประจำ
หมวกกันน็อคก็ไม่ใส่ด้วยหละ
เหอ ๆ
จริงๆ แล้ว ใส่หมวกกันน๊อคก็ดีนะ ไม่ทำให้หน้าเป็นฝ้าด้วย
เห็นขับสวนเลนออกมาทั้งกลางวันและกลางคืนเลย จนเหมือนจะเป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว
ส่วนใหญ่ที่เห็น มักจะเป็นนักศึกษาราชภัฏทั้งนั้นเลยนะ ไม่รู้อาจารย์เขารู้บ้างเปล่า
เป็นคุณ คุณก้อสวนน่า ออกมาถ่ายเอกสารหน้ามอ ให้ไปอ้อม สามกองหรือไง
ที่ถ่ายเอกสารมันไกลมากขนาดเดินไม่ถึงแน่ๆเลย 🙂
เหตุผลคนเห็นแก่ตัวอ่ะ ถ้ารู้ว่ามันใกล้แล้วทำไม ไม่จอดรถไว้ในมอแล้วเดินออกมาหล่ะ ขับสวนเลนแบบนั้น เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา คงมีแต่คนสมน้ำหน้าอ่ะ
คนที่ขับรถไปชนก็ซวยอีก อย่างๆ น้อยๆ ก็เสียเวลาหน่ะ
เจอรถสวนประจำเลย ถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำตามกฎไม่ได้ แล้วจะเป็นประชาชนที่ดี และมีคุณภาพในวันหน้าได้อย่างไร