เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันที่ 2 ตุลาคมนี้ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากตัวแทนประชาชนที่อยู่อาศัยใกล้กับบริเวณ ชายหาดไม้ขาว ที่เป็นที่ตั้งของโรงแรม เจ ดับบลิว มาริออท ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ว่าพบวัตถุลักษณะคล้ายขี้วาฬ โดยกลุ่มประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวได้พยายามเก็บรวบรวมไว้มากถึง 10กิโลกรัม และยืนยันว่าวัตถุดังกล่าวเหมือนกับสิ่งที่ประชาชนพบที่บ้านหินลาด ตำบลคุระ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 30 กันยายนนี้
อย่างไรก็ดีเมื่อเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ชายหาดไม้ขาวที่ประชาชนอ้างว่า เก็บขี้วาฬได้พบว่าในปัจจุบันชายหาดนี้เปิดเป็นร้านขายอาหาร-ของที่ระลึกและนวดแผนโบราณริมชายหาดและมีกลุ่มประชาชนจำนวนมากยืนมุงดูวัตถุที่เชื่อว่าเป็นขี้วาฬ มีลักษณะสีขาวขุ่นอมเหลือง ส่งกลิ่นคาวเล็กน้อยและชาวบ้านเก็บไว้ในถุงพลาสติกใสสีขาวจำนวน2 ถุง มีน้ำหนักประมาณ10 กิโลกรัม จากการสอบถามผู้เกี่ยวข้องทราบว่าถ้าเป็นขี้ปลาวาฬหรือน้ำเชื้อปลาวาฬจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 40,000-50,000 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม คือจะมีโรงงานมารับซื้อไปทำน้ำหอมหรือเครื่องสำอางชื่อดัง และเมื่อวันที่ 30 กันยายนี้ได้มีประชาชนบ้านหินลาด จังหวัดพังงาพบขี้วาฬเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกันและประชาชนทั่วไปตื่นตัวและสนใจข่าวดังกล่าวมาแล้ว
นางวิภาดา ก้านขาว อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/1 หมู่ที่ 2 ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เจ้าของวัตถุที่เชื่อว่าเป็นขี้วาฬกล่าวว่า ตนเองมีอาชีพเป็นหมอนวดชายหาดให้บริการนักท่องเที่ยวที่พักอยู่ที่โรงแรม ใกล้ชายหาดจนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมาพบเห็นขี้วาฬถูกคลื่นซัดลอยมาติดชายหาดเป็นจำนวนมาก และเห็นกลุ่มประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านไม้ขาวและหมู่บ้านใกล้เคียงต่าง มาเก็บกลับไปไว้ที่บ้านเช่นเดียวกัน และเฉพาะตนเองได้เก็บสะสมไว้เรื่อยมาจนถึงวันที่ 2 ตุลาคมนี้ จนกลายเป็นก้อนขนาดใหญ่ มีน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม
นางวิภาดา ก้านขาว กล่าวด้วยว่า เท่าที่ทราบชาวไทยใหม่หรือชาวเลในสมัยก่อนเคยบอกว่าถ้าพบขี้วาฬดังกล่าวถูกคลื่นซัดลอยมาติดชายหาด ขอให้เก็บไว้ เพราะสามารถขายได้ราคาสูง เนื่องจากเป็นที่ต้องการของโรงงานทำน้ำหอมหรือเครื่องสำอาง แต่ขณะนี้ยังไม่มีพ่อค้าหรือโรงงานมาติดต่อขอรับซื้อแต่อย่างใด จึงต้องเก็บรวบรวมเอาไว้ก่อน
ในขณะที่นายสุพจน์ จันทราภรณ์ศิลป์ ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า วัตถุที่ชาวบ้านพบ คือ ขี้วาฬหรืออำพันปลาวาฬ เป็นสิ่งที่วาฬหัวทุยถ่ายติดมากับอุจจาระ เป็นสารประเภทไขมัน หรือ Red tide ที่วาฬย่อยไม่ได้ ที่สำคัญพบเฉพาะวาฬหัวทุยเท่านั้น เนื่องจากกินหมึกเป็นอาหารวันละหลาย 100 กิโลกรัม ทำให้มีไขมันสะสมมาก ในทางวิชาการนั้นแต่ละตัวจะมีขี้วาฬประมาณ 1 ตันและจะถ่ายเป็นประจำ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายกลายเป็นอาหารของสัตว์ทะเลชนิดอื่นได้
นอกจากนี้นายสุพจน์ จันทราภรณ์ศิลป์ กล่าวว่าในอดีตมีการล่าวาฬชนิดนี้ เพื่อนำไขมันของมันไปสกัดเป็นน้ำหอม และในระยะนี้ในทะเลอันดามันพบมากทั้งที่บ้านหินลาด อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงาและที่ชายหาดไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากเป็นช่วงที่คลื่นลมแรง ในช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พาดผ่านพื้นที่ ทำให้พัดขี้วาฬเข้าสู่ชายฝั่ง เพราะตามปกติแล้วจะลอยอยู่กลางทะเลเท่านั้น สำหรับพฤติกรรมของวาฬหัวทุย มักจะหากินในทะเลลึก หรือไม่ว่ายเข้าใกล้ฝั่ง ยกเว้นเข้ามาคลอดลูกเท่านั้น สำหรับสถิติข้อมูลกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต ที่จัดเก็บมาตั้งแต่ปี 2516 ถึงปัจจุบันพบซากและตัวเป็น ๆ ของวาฬหัวทุยในทะเลอันดามัน ตั้งแต่จังหวัดระนอง ไปถึงจังหวัดสตูล จำนวนทั้งสิ้น13 ตัว
ขาย ขี้ปลาวาฬ มีอยู่ 8กิโลกรัม ใครมีพ่อค้าที่รับซื้อกรุณาติดต่อมาหน่อยน่ะครับ 086-5966536