เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2552 ศาลปกครองร่วมกับสำนักงานศาลปกครองนครศรีธรรมราช จัดให้มีโครงการศาลปกครองพบประชาชน และเสริมสร้างเครือข่ายด้านสื่อมวลชน ณ โรงแรมเมโทรโพล อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยศาสตราจารย์ ดร.อักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด ได้เป็นประธานเปิดงานด้วยตัวเอง นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์ รองประธานศาลปกครองสูงสุด ดร.ฤทัย หงส์สิริ อธิบดีศาลปกครองกลาง อธิบดีศาลปกครองนครศรีธรรมราช ประชาชน ข้าราชการในศาลปกครอง และประชาชนในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมให้การต้อนรับ
ศาสตราจารย์ ดร.อักขราทร กล่าวว่า สำนักงานศาลปกครอง ได้ร่วมกับสำนักงานศาลปกครองในภูมิภาค จัดกิจกรรมศาลปกครองพบประชาชน และเสริมสร้างเครือข่ยด้านสื่อมวลชน ในลักษณะนี้ มาแล้วทั้งหมด 7 ครั้ง คือในกรุงเทพฯ จำนวน 2 ครั้ง และในจังหวัดต่างๆ จำนวน 5 ครั้ง ได้แก่ จ.ขอนแก่น สงขลา อุดรธานี นครสวรรค์ และอุบลราชธานี เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ กระบวนการพิจารณาคดีปกครอง รวมทั้งสิทธิตามกฎหมายของประชาชนในการปกป้องคุ้มครองสิทธิของตน ในกรณีที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการกระทำทางปกครองของฝ่ายปกครอง
ศาสตราจารย์ ดร.อักขราทร กล่าวอีกว่าสำหรับโครงการศาลปกครองพบประชาชนในครั้งนี้ ที่ จ.ภูเก็ต นอกจากเป็นการอภิปรายในหัวข้อเรื่อง “ศาลปกครองกับสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” แล้ว ยังมีการให้บริการคลินิกศาลปกครอง คือ ตอบคำถามกฎหมายในทางปกครองกับประชาชนที่สนใจ รวมทั้งนิสิตนักศึกษาด้วย ซึ่งจะทำให้มีส่วนช่วยให้นิสิตนักศึกษาเกิดความรู้ ความเข้าใจ พื้นฐานในกระบวนการยุติธรรมทางปกครองมากขึ้น
อย่างไรก็ตามตนคาดว่าโครงการศาลปกครองพบประชาชนที่ จ.ภูเก็ต ในวันนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมโครงการในการได้รับความรู้ ความเข้าใจในบาทบาท และภารกิจเกี่ยวกับศาลปกครองมากขึ้น ขณะเดียวกันศาลปกครองก็จะได้รับประโยชน์จากข้อสังเกต ข้อเสนอแนะ รวมทั้งความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆ จากผู้เข้าร่วมโครงการด้วยเช่นกัน
ประธานศาลปกครองสูงสุด ได้กล่าวถึงการดำเนินการก่อสร้างอาคารที่ทำการถาวรที่เป็นสัญลักษณ์ของ สถาบันศาลปกครองและเป็นอาคารประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า ณ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ซึ่งขณะนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะมีการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และเปิดอาคารที่ทำการศาลปกครอง ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และเปิดอาคารที่ทำการศาลปกครองในวันที่ 1 ตุลาคม 2552
สำหรับในอนาคตนั้นจะมีการตั้งศาลปกครอง เพื่ออำนวยความสะดวก และเสริมสร้างโอกาสการเข้าถึงความยุติธรรมทางปกครองของประชาชน โดยปัจจุบันเปิดทำการศาลปกครองในภูมิภาคทั้งสิ้น จำนวน 7 แห่ง กระจายอยู่ในภูมิภาคต่างๆ และจะมีการเปิดศาลปกครองในภูมิภาคเพิ่มเติมอีก 6 แห่ง ได้แก่ ภาคเหนือ ศาลปกครองนครสวรรค์ จะเปิดทำการในปี 2555 ภาคกลาง ศาลปกครองเพชรบุรี จะเปิดทำการในปี 2554 และศาลปกครอง สุพรรณบุรี จะเปิดทำการในปี 2555 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศาลปกครองอุดรธานี จะเปิดทำการในปี 2553 และศาลปกครองอุบลราชธานี จะเปิดทำการในปี 2553 และภาคใต้ ศาลปกครองภูเก็ต จะเปิดทำการในปี 2554
นอกจากนี้ประธานศาลปกครองสูงสุด ยังได้เปิดเผยข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการดำเนินงานของศาลปกครองเพิ่มเติม ในประเด็น ศาลปกครองไทย:วิวัฒนาการ และอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครอง,คดีที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาล ปกครอง , สถิติคดีปกครองตั้งแต่เปิดทำการ-ปัจจุบัน ซึ่งในส่วนนี้ศาลปกครองได้ประฏิบัติภารกิจหน้าที่ในการอำนวยความยุติธรรมทาง ปกครองเพื่อเป็นที่พึ่งหลักของประชาชนและสังคมไทย ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ข้อพิพาททางปกครองที่เป็นคดีเข้าสู่ศาลปกครองมีปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละปีมีปริมาณคดีรับเข้าสู่การพิจารณาของศาลปกครองอยู่ในช่วงระหว่าง 5,000-7,000 คดี หรือเฉลี่ยปีละ 6,012 คีดต่อปี หากพิจารณาจากวันเปิดทำการศาลปกครองครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2544 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2552 ปริมาณคดีที่รับเข้าสู่การพิจารณาของศาลปกครองมีจำนวนทั้งสิ้น 52,061 คดี ศาลปกครองได้พิจารณาคดีแล้วเสร็จจำนวน 40,434 คดี คิดเป็นร้อยละ 77.67 และมีคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณา 11,627 คดี คิดเป็นร้อยละ 22.33 ของคดีรับเข้าทั้งสิ้น