เทศบาลเมืองป่าตองเตรียมสร้างถนนเชื่อมต่อกะทู้-ป่าตอง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ตุลาคม 2552  ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ นายสมิทธิ์  ปาล วัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการประชุมระดมความคิดเห็นโครงการศึกษาความเหมาะสมทางด้าน เศรษฐกิจ สังคม วิศวกรรมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อกะทู้ -ป่าตอง โดยมีนายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต  ตัวแทนจากกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญเป็นการแจ้งให้ทราบถึงที่มาของโครงการว่า เนื่องจากเทศบาลเมืองป่าตอง ได้ดำเนินการโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อกะทู้-ป่าตอง และได้มีการดำเนินการว่าจ้างบริษัท เอพซิลอน จำกัด, ศูนย์วิศวกรรมพลังงานและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, บริษัทแพลนโปร จำกัดและสนับสนุนด้านเทคนิคอุโมงค์จาก Gall Zeidler Consultants, LLC ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในงานบริการทางวิศวกรรมด้านเทคนิคปฐพีกลศาสตร์และอุโมงค์   เป็น ที่ปรึกษาและเข้าร่วมดำเนินงานในโครงการฯ มีระยะเวลา 15 เดือน

วันนี้ (2 ต.ค. 52) ทางเทศบาลเมืองป่าตอง จึงต้องนำเสนอข้อมูลโครงการฯ และรับฟังความคิดเห็นแนะนำจากส่วนราชการและผู้เกี่ยวข้องในการศึกษาโครงการฯ เพื่อศึกษาพิจารณาคัดเลือกแนวทางเลือกรวมทั้งรูปแบบของโครงการ โดยศึกษาและเปรียบเทียบแนวทางเลือกอย่างน้อย 3 แนวทางเลือกให้ครอบคลุมทั้งด้านวิศวกรรม การจราจร เศรษฐกิจ สังคม การลงทุนและผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ได้แนวทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ทั้งนี้นางศิรประภา รติวัฒน์  รองผู้จัดการกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาโครงการฯ กล่าวถึงแนวทางพัฒนาโครงการฯ ว่า จากการศึกษาสามารถใช้ถนนเส้นทางเดิมทางหลวงหมายเลข 4029 ได้ ส่วนช่วงที่มีข้อจำกัดด้านกายภาพตามลักษณะภูมิประเทศจากกะทู้สู่หาดป่าตองจะ ต้องตัดเส้นทางใหม่ ซึ่งจะมีรูปแบบถนน สะพาน อุโมงค์หรือผสมผสานกันเพื่อลดระยะทางและเพิ่มความสะดวกปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้น ทาง สามารถรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นได้

ด้านนายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า โครงการดังกล่าวอยู่ในช่วงการศึกษาความเป็นไปได้ ซึ่งในช่วงแรกนี้เป็นการระดมความคิดเห็นจากส่วนราชการก่อน และหลังจากนี้ในวันที่ 8 ตุลาคม 2552 ทางเทศบาลนครภูเก็ตจะเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนรวมทั้งประสานงานกรมทาง หลวงชนบท เพื่อของบประมาณจากรัฐบาลเป็นจำนวนเงินประมาณ 2-3 พันล้านบาท ทั้งนี้เพื่อศึกษาผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นและในขั้นรายละเอียด อันเนื่องมาจากการก่อสร้างโครงการและดำเนินการด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อความเข้าใจต่อสาธารณะในการดำเนินโครงการฯ เพื่อให้โครงการฯ บรรลุวัตถุประสงค์มากที่สุด

Related Post

ร่วมแสดงความคิดเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.