นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดการปัญหานอมินีต่างชาติที่เกี่ยวข้องและพัวพันการฮุบที่ดินภูเก็ตนี้ เพื่อประโยชน์ของภูเก็ตโยเฉพาะอย่างยิ่ง มีผลบกระทบกระเทือนต่อทรัพยากรการท่องเที่ยว และธุรกิจบางประเภท ไม่มีคนไทยประกอบการเลย โดยมีการกำชับให้เข้าตรวจสอบ ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลยกันมาก และการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ต้องให้รู้ว่าบุคคลต่างด้าวเข้ามาแล้วต้องทำให้ถูกต้อง เช่น ใบอนุญาตทำงาน การเสียภาษี เป็นต้น และจะประเมินผลกัน เป็นระยะหรือ ดำเนินการเป็นลำดับ ทั้งนี้การเข้าตรวจสอบ ธุรกิจต่างๆที่ มีในภูเก็ต รายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้อง จะให้ทางท้องถิ่น เสนอข้อมูลขึ้นมา ที่ต้องเก็บไว้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทางจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการ เพื่อ ให้อยู่ในกรอบ เตรียมการพัฒนาปรับปรุงเก็บภาษี ให้คนไทยมีงานทำมากขึ้น ไม่ใช่ต่างชาติมาแย่งคนไทยทำงาน ที่ผ่านมา ถือว่าเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องละเลย
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าทางจังหวัดจะเข้มงวดการเข้ามาทำธุรกิจในภูเก็ตมากขึ้น โดยเฉพาะ กรณี คนต่างชาติมาร่วมถือหุ้นกับคนไทย และการจดทะเบียนทำธุรกิจของคนไทยกับต่างชาติ แบบสัดส่วนการถือหุ้น ร้อย ละ 49 กับ ร้อยละ 51 ถูกต้องต่อไปมีการซื้อและขายหุ้นการแปลงหุ้นกันภายหลังต้องมีการตรวจสอบ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้มีการแกล้งจดทะเบียนกัน เพื่อครอบครองทรัพย์สิน ผลประโยชน์ไม่ได้เกิดกับคนไทย เช่น ธุรกิจดำน้ำ ธุรกิจทัวร์ท่องเที่ยว ธุรกิจไทม์แชริ่ง เป็นต้น จะต้องดูกันทุกประเภท นอกจากนี้จะเข้มงวดการประกาศขายอาคารชุด อสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ทางเว็บไซต์ ที่ประกาศราคาขายกัน จะเอาราคานั้นเป็นราคาโอน จากนั้น การให้เช่าจะให้สรรพากรเข้าตรวจสอบ เช่น ที่ตำบลป่าคลอก อำเภอ เป็นต้น
ทางด้านพลเรือตรี อมรโชติ สุจิรัตน์ รองผู้อำนวยการ กอ.รมน.จังหวัดภูเก็ตกล่าวว่ากฎหมายทุกอย่างค่อนข้างครอบคลุม เพียงแต่เจ้าหน้าที่ยังหย่อนยาน หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ควรบูรณาการขึ้นมา ตั้งเป็นทีม มีตำรวจ ปกครอง อบต. เทศบาล และหาคนกลาง คือ สื่อมวลชน เป็นทีมประมาณ 4-5 ทีม ตรวจตามพื้นที่ต่างๆ ในแต่ละเดือน เดือนละครั้ง เชื่อว่า จะเป็นระเบียบมากขึ้น ส่วนกลุ่มที่เรียกร้องหาประโยชน์จะไม่กล้า เพราะว่า มีการร่วมกันตรวจสอบ มากขึ้น หากพบเจ้าหน้าที่นอกรีตจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มีการกลั่นแกล้งใคร ทุกอย่างแก้ไขได้ ไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมาย