นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในขณะนี้ ทางจังหวัดโดยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ตำรวจ และขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เข้าไปดำเนินการกับผู้ประกอบการเรือเจ็ทสกีหรือเรือเช่า ที่ก่อเหตุ เอารัดเอาเปรียบ ขูดรีดและฉ้อโกงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะในช่วงที่ผ่านมานั้นทางจังหวัดได้รับการร้องเรียนจากทางสถานทูตประเทศ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่นและประเทศเกาหลี ที่ระบุถึงพฤติกรรมต่างๆของผู้ประกอบการเจ็ทสกีตามชายหาดชื่อดังของเกาะ ภูเก็ตเช่นหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ ในเรื่องนี้ทางจังหวัดมิได้นิ่งนอนใจ มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะทางตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต เข้าไปดำเนินการโดยมีการเรียกตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการมาประชุมหารือไปเมื่อ ประมาณ1เดือนเศษที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีหลังจากมีการประชุมหารือและทางกลุ่มตัวแทนเรือเจ็ทสกีหรือเรือ เช่า รับปากว่าจะแก้ไขปัญหาโดยไม่ไห้เกิดปัญหาการเอารัดเปรียบนักท่องเที่ยวเกิด ขึ้นอีก ปรากฏว่าช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ยังเกิดมีกรณีการเอารัดเอาเปรียบ ขูดรีด ฉ้อโกง นักท่องเที่ยวเกิดขึ้นอีกถึง 3 รายซ้อน โดยเกิดกับนักท่องเที่ยว ชาวออสเตรเลีย ญี่ป่น และชาวจีน และปัญหาเหล่านี้เชื่อว่าหากเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาจริงจะ ไม่เกิดปัญหา และปัญหาที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องการปล่อยปละละเลยจนเกิดผลเสียการท่อง เที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทยทั้งๆที่หลายฝ่ายพยายามออกไปทำโรคโชว์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทย แต่กลับมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวในภูเก็ตกลับไปเอารัดเอาเปรียบ ขูดรีด ฉ้อโกง อันจะเป็นการทำลายภาพพจน์การท่องเที่ยวของไทยอย่างชัดเจน
สำหรับปัญหาล่าสุดเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวจีน เมื่อเช่าเรือเจ็ทสกีออกไปแล้วปรากฏว่าเสีย ทางเจ้าของเรือได้เรียกร้องค่าเสียหายสูงถึง 50,000บาท จนทางจังหวัดต้องให้ทางตำรวจเข้าไปร่วมเจรจาจนในที่สุดตกลงค่าเสียหายเหลือเพียง 3,000บาท และรายของนักท่องเที่ยวสาวชาวญี่ปุ่นเช่าเรือเจ็ทสกีออกไปขับเกิดเครื่อง เสียผู้ประกอบเห็นแล้วก็ปล่อยทิ้งให้อยู่กลางทะเลโดยไม่ให้การช่วยเหลือ เมื่อครบกำหนดชั่วโมงการเช่ากลับเข้าฝั่งมาส่งเรือคืนไม่ทัน มีการเรียกร้องค่าเสียหายว่าส่งเรือคืนเกินกำหนดเวลา กรณีนี้จึงเป็นการซ้ำเติมนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตยังระบุด้วยว่าเรื่องนี้ทางจังหวัดจะ เข้าไปดำเนินการอย่างจริงจังเพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงต่อเมืองท่อง เที่ยวนานาชาติภูเก็ต ต้องเร่งตรวจสอบว่าว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง รวมถึงมีการแจ้งว่าเมื่อเกิดเหตุจะมีการบวกค่าเสียหายเกินจริงเพื่อเป็นค่า หัวกับเจ้าหน้า ที่ด้วย โดยทางจังหวัดจะเข้าไปจัดระเบียบ ทำทะเบียนประวัติ เจ้าของเรือ รวมถึงดำเนินการกับเรือเจ็ทสีเถื่อน เพราะจากข้อมูลมีเรือเจ็ทสกี198ลำ ในพื้นที่ 6 หาด รวมถึง ปัญหาเรื่องใบขับขี่ เพราะในข้อกฎหมายนักท่องเที่ยวเช่าเจ็ทสกีไปต้องมีใบขับขี่ด้วย แต่ที่ผ่านมามีการปล่อยปละละเลยกันมาก และต่อไปนี้ถึงเวลาที่ทางจังหวัดภูเก็ตจะเอาจริงกับปัญหาเรือเจ็ทสกีที่ไม่ รับผิดชอบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวอย่างเด็ดขาด