เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2552 ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดภูเก็ต โดยมี หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการร้านอาหารเข้าร่วม
นายวรพจน์ กล่าว ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศนโยบาย และเป้าหมายการรณรงค์สร้างสุขภาพทั่วไป กำหนดให้ร้านอาหาร และแผงลอยจำหน่ายอาหารต้องได้มาตรฐานสุขอนามัยไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของร้านอาหาร และแผงลอยจำหน่ายอาหารทั้งหมด และตลาดสดทุกแห่งต้องได้มาตรฐานตลาดสดน่าซื้อ ในขณะที่ จังหวัดภูเก็ต มีร้านอาหาร จำนวน 1,680 แห่ง แผงลอยจำหน่ายอาหาร จำนวน 450 แห่ง รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,130 แห่ง มีตลาดสด จำนวน 8 แห่ง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการพัฒนาสถานประกอบการเหล่านั้นโดย ใช้กลยุทธการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย ประกอบด้วยหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานด้านสาธารณสุข ชมรม ผู้ประกอบการร้านอาหาร ชมรมพ่อค้าในตลาดสด และอาสาสมัครสาธารณสุข ซึ่งผลการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน ทำให้มีร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหาร ที่ได้รับการพัฒนาจนผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารสะอาด รสชาติอร่อย คิดเป็นร้อยละ 90 ของร้านอาหาร และแผงลอยทั้งหมด และตลาดสด 7 แห่ง ผ่านเกณฑ์ตลาดสดน่าซื้อ ในปี 2552
สำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้จัดกิจกรรมประกวดผลการดำเนินงานของภาคีเครือข่ายอาหารปลอดภัย ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารระดับตำบล และการพัฒนาและยกระดับตลาดสดน่าซื้อ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนา และจากการติดตามประเมินผลงานในพื้นที่ ทำให้ได้รับทราบถึงศักยภาพ และความเข้มแข็ง ของภาคีเครือข่าย และชมรมผู้ประกอบการระดับตำบล ที่น่าสนใจควรนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจึงได้จัดงานวันนี้ขึ้น เพื่อเป็นเวทีให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการทำธุรกิจร้านอาหาร พร้อม กับมีการมอบเงินรางวัล และโล่เกียรติคุณ ให้กับผู้ชนะการประกวด อาทิ เทศบาลตำบลวิชิต รับรางวัลชนะเลิศการประกวดความร่วมมือภาคีเครือข่ายอาหารปลอดภัยปี 2552 , ชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารเทศบาลนครภูเก็ต รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารระดับตำบล เป็นต้น
อย่าง ไรก็ตาม นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับไม่ว่าจะเป็น อบจ.เทศบาล อบต.จะต้องรับช่วงต่อจากสาธารณสุขในการดูแลรับผิดชอบพัฒนาร้าน และแผงลอยจำหน่ายอาหาร รวมทั้งตลาดสด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่เป็นผู้กำหนดมาตรฐานและคิดค้นองค์ความรู้ด้าน วิชาการ แล้วถ่ายทอดสู่เจ้าหน้าที่เพื่อนำไปพัฒนาท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่เพื่อเป็น ต้นแบบ ในแต่ละปีภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ทุกคนต้องรับประทานอาหาร ดังนั้นการที่ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันมุ่งมั่นพัฒนา และรักษามาตรฐานความสะอาดของอาหารไว้ ตนเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะไปสู่สากลและดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาบ้านเรามากขึ้น